"บิ๊กป้อม" จี้ทุกหน่วยงานเร่งรัดแผนระยะเร่งด่วนสกัดน้ำท่วมซ้ำนิคมอุตสาหกรรมบางปูและโดยรอบ ขีดเส้นแล้วเสร็จภายในเม.ย.นี้ พร้อมบูรณาการทุกหน่วยงานขับเคลื่อนแผนระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาแบบยั่งยืน


เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคกลาง ประชุมร่วมกับ คณะทำงานบูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบ ครั้งที่ 1/2565 ณ ศาลากลางจ.สมุทรปราการ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการแก้ปัญหาน้ำท่วมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผวจ. นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทานและนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและตัวแทนองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น จ.สมุทรปราการ เข้าร่วมด้วย จากนั้นนายสมเกียรติและคณะ ได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางแผนการระบายน้ำ ณ สถานีสูบระบายน้ำฝน ซอย 9A ซึ่งหนึ่งในจุดรับน้ำในพื้นที่นิคม ที่จะระบายลงระบบคลองภายนอก และระบายออกสู่ทะเลทางคลองชายทะเลต่อไป

...


นายสมเกียรติ กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และประธานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้สั่งการ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2564 ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บูรณาการหน่วยงานต่างๆ เร่งรัดทำแผนเร่งด่วนตามบัญชาของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ และพื้นที่รอบนอก และ ผวจ. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการน้ำจังหวัด ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะทำงานบูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบขึ้นมา เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 เพื่อขับเคลื่อนแผนงานทั้งระยะเร่งด่วน และระยะต่างๆ ให้เกิดเอกภาพ มีประสิทธิภาพ และความชัดเจน รวมทั้งให้สอดรับกับนโยบายมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 จำนวน 13 มาตรการของรัฐบาล ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับจังหวัด/ท้องถิ่น ได้มีการเตรียมความพร้อมบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนให้เร็วยิ่งขึ้น และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการ

อาทิ การบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก ปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ ขุดลอกคูคลอง และกำจัดผักตบชวา เป็นต้น ดังนั้น ในการประชุมครั้งนี้ จึงได้เร่งรัดติดตามใน 3 เรื่องคือ 1. แผนระบายน้ำในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมบางปู 2. แผนงานขุดลอก กำจัดวัชพืช สิ่งกีดขวาง เสริมแนวคันที่ลุ่มต่ำ ในบริเวณ คลองลำสลัด คลองหัวลำภู คลองหกส่วน และคลองธรรมชาติอื่นๆ และ 3. แนวทางการบริหารจัดการน้ำ และแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลงสู่คลองชายทะเลพร้อมกำชับให้แต่ละหน่วยงานจัดทำแผนให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ตามข้อสั่งการของรองนายกฯ

"พล.อ.ประวิตร มีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบอย่างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำน้ำท่วมถึง ส่งผลกระทบต่อบุคลากร แรงงาน เครื่องจักรเครื่องมือ และยานพาหนะ ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานจำนวนมากทำงานใน 370 โรงงาน จึงสั่งการให้คณะอนุกรรมการฯ เร่งลงพื้นที่ เพื่อติดตามการจัดแผนเผชิญเหตุและแผนเตรียมความพร้อมเฉพาะหน้าให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อรับมือฤดูฝนปี 65 ที่จะมาถึง ซึ่งคาดว่าฝนจะมาเร็วกว่าปีปกติ นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้เร่งรัดทุกหน่วยงานเร่งจัดทำแผนระยะกลาง และระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาแบบยั่งยืนให้แล้วเสร็จโดยเร็วอีกด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว


ด้านนายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มว่า กรมชลฯ ได้วางแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมนิคมฯ บางปูไว้ 5 แนวทางคือ 1. จัดหาเครื่องสูบน้ำทดแทนเครื่องเดิมที่มีอายุการใช้งานมากว่า 10 ปี 2. จัดหาเครื่องเก็บขยะอัตโนมัติของสถานีสูบน้ำทดแทนของเดิม 3. ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบควบคุมเครื่องสูบน้ำและระบบโทรมาตร 4. ปรับปรุงประตูระบายน้ำพร้อมสถานีสูบน้ำเดิมและใหม่ และ 5. ปรับปรุงคลองชลประทานภายใต้แผนหลักการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างปี 2567

...

ทั้งนี้ กรมชลฯ ได้วางแนวทางป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลางและระยะยาว โดยในระยะเร่งด่วนได้เร่งทำการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องสูบน้ำทั้งหมด ส่วนระยะกลางมีแผนปรับปรุงคลอง 7 สาย ได้แก่ คลองพระองค์ไชยานุชิต คลองปีกกา คลองสำโรง คลองด่าน คลองประเวศน์บุรีรมย์ คลองอุดมชลขจร และคลองชวดพร้าว-เล้าหมู-บางพลีน้อย นอกจากนี้ยังมีแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่างบริเวณสะพานน้ำยกระดับสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ พื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร มีการขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มความสามารถในการระบายน้ำของคลองต่างๆ