ร้านพัดชา ขนมเบื้องสู้ชีวิต ข้างหอนาฬิกา อุทัยธานี ตั้งชื่อร้านตามลูกสาวป่วยเป็นออทิสติก ขายมากว่า 3 ปีเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก หลังผู้เป็นพ่อมาใหลตายด่วนจากไป แป้งกรอบ หอม มีให้เลือก 5 ไส้
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.อุทัยธานี มีแม่ค้าขนมเบื้องสู้ชีวิตรายหนึ่ง ตั้งชื่อร้านว่า "น้องพัดชา" ตามลูกสาวที่ป่วยออทิสติก ขายมากว่า 3 ปีเพื่อเลี้ยงลูก ผู้เป็นพ่อมาด่วนจากไปแต่ไม่คิดจะท้อขายขนมเพื่อหารายได้เลี้ยงลูกสาว จึงเดินทางไปตรวจสอบและพบกับ นางสาวณัฎธิดา จันทวิมล อายุ 44 ปี ชาวบ้านถนนพิบูลย์ศิริ ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟังว่าได้ขายขนมเบื้องมินิมา 3 ปีกว่าแล้ว ซึ่งตั้งร้านขายที่เป็นรถพ่วงอยู่ที่เยื้องหอนาฬิกา ถนนพระยาวิฑูรย์
แม่ค้าขนมเบื้องสู้ชีวิต กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านั้นมีสามีช่วยขายแต่ได้มาจากไปเมื่อเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นนอนหลับแล้วไปอย่างสงบและมีลูกด้วยกัน 1 คน ก็คือ น้องพัดชา วัย 6 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นโรคออทิสติกตั้งแต่เกิดมา จะขับรถพ่วงมาตั้งแต่เวลา 10.30 น. ถึงเวลา 16.00 น. บางทีขายหมดเร็วก็จะกลับบ้านเร็ว หากวันไหนขายไม่ดีก็ไม่คิดจะท้อ เพราะจะท้อไม่ได้เพราะมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูเวลาไปขายของที่ไหนน้องพัดชาก็จะไปด้วยทุกที่ซึ่งน้องพัดชานั้นยังอยู่ในวัยเด็กจึงปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ และน้องเป็นออทิสติกด้วยหากให้อยู่บ้านคนเดียวเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยนั่นเอง
...
สำหรับขนมเบื้องที่ทำขาย ส่วนประกอบของแป้งขนมเบื้องนั้น ก็มีแป้งข้าวจ้าว แป้งข้าวเหนียว แป้งซาหริ่ม และน้ำตาลมาผสมให้เข้ากันและเทลงบนเตาไฟสำหรับทำขนมเบื้องโดยเฉพาะ แป้งนั้นจะกรอบและหอมชวนรับประทานและใส่ครีมที่เป็นสูตรเด็ดของทางร้าน ส่วนไส้ของขนมเบื้องมินิของร้านแห่งนี้มีอยู่ 5 ไส้ คือ ฝอยทอง ลูกเกด เยลลี่ ช็อกโกแลต และไส้เค็มกุ้งสด
ผู้ที่ผ่านมาร้านแห่งนี้ต่างก็ติดใจในรสชาติทยอยมาซื้อกันเพราะมีรสชาติหวานอร่อยนั่นเองหากอยากจะชิมขนมเบื้องร้านพัดชา หอนาฬิกา ที่คนมาซื้อเรียกกันติดปาก โดยตั้งใจตั้งชื่อร้านให้ลูกสาวเพื่อเป็นการให้กำลังใจตัวเองนั่นเอง หากใครสนใจที่จะซื้อหรือชิมขนมสามารถโทรสั่งได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 080-9985206 และรับทำขนมตามงานต่างๆ อีกด้วย ส่วนราคาขายนั้นก็ถูกมาก 7 ชิ้น 20 บาทและหรือกล่องละ 40 บาท ซึ่งคนที่มาซื้อนั้นบางทีอยากได้ไส้เยอะขนาดไหนทางนางสาวณัฎธิดาก็จะใส่แบบเต็มที่โดยไม่คิดเงินเพิ่ม โดยเฉลี่ยกำไรก็วันละ 500 บาท ซึ่งก็จะนำไปเป็นทุนในการซื้อวัตถุดิบมาทำขนมขายและเก็บไว้เพื่อเลี้ยงดูน้องพัดชานั่นเอง.