อช.เขาแหลมออกประกาศเตือนภัย ห้ามเข้าพื้นที่ป่าลำห้วยปิล๊อก สะมะท้อ ทองผาภูมิ หลังเสือโคร่งออกมาเพ่นพ่านไล่กัดหนุ่มกะเหรี่ยงที่เข้าไปต้อนฝูงควายบาดเจ็บสาหัส กัดหมาที่ไปด้วยตาย 2 ตัว เล่านาทีระทึกประจันหน้ากับเสือถึง 3 ตัว ถูกกัดต้องหนีขึ้นต้นไม้ รอจนเสือเข้าป่าแล้วจึงขี่ควายออกมาขอความช่วยเหลือ
เวลา 08.00 น. วันที่ 29 ม.ค. 65 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผย กรณีเสือทำร้ายชาวบ้านปิล๊อกคี่ ทางกรมอุทยานฯ โดยสบอ.3 (บ้านโป่ง) ได้รับแจ้งจาก นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และนายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 65 มีเสือโคร่งทำร้ายชาวบ้านในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ผู้บาดเจ็บ ชื่อ นายหวาน ชาวกะเหรี่ยง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยผู้บาดเจ็บเล่าว่า เวลา 09.00 น.ออกจากบ้าน ปิล๊อกคี่ ไปดูควายซึ่งมีอยู่ 9 ตัวเลี้ยงที่ป่าสะมะท้อ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ไปคนเดียว พร้อมหมา 3 ตัว
นายหวาน ผู้บาดเจ็บเผยว่าเข้าป่าเพื่อไปนำควายกลับเข้าหมู่บ้าน เวลาประมาณ 12.00 น. พบเห็นเสือ 3 ตัว จะเข้ามาทำร้ายและได้ต่อสู้จนบาดเจ็บวิ่งหนีขึ้นต้นไม้จึงรอดตาย ส่วนหมาตายไป 2 ตัว เมื่อเสือโคร่งเข้าป่าไป จึงเดินและขี่ควายกลับออกมาเจอเพื่อนขอความช่วยเหลือให้นำมายังหมู่บ้าน โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กม. สำหรับบาดแผลถูกเสือทำร้ายมีที่บริเวณลำคอ มือ แขน ขา ใบหน้าประมาณ 20 แห่ง
หลังเกิดเหตุ ทางกรมอุทยานฯ โดยสบอ.3 (บ้านโป่ง) ได้สั่งการให้ ทางนายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานเขาแหลมนำกำลังประมาณ 10 นาย เดินทางไปบริเวณดังกล่าว เพื่อปกป้องราษฎร และเฝ้าระวัง มิให้เสือโคร่งกลับเข้ามาบริเวณนี้อีก และในช่วงนี้ห้ามมิให้ชาวบ้านเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ถ้ามีเหตุความจำเป็นเข้าไปต้องขออนุญาตกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม หรือหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิก่อน เพื่อจะได้จัดเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเข้าไปในป่าด้วยเพื่อดูแลเฝ้าระวังภัยให้กับราษฎรที่มีความจำเป็นจะเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
...
นอกจากนี้ หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ทางกรมอุทยานฯ โดยนายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นตัวแทนมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือแก่นายหวาน ชาวกะเหรี่ยง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ผู้บาดเจ็บจากเสือโคร่งกัด 1 หมื่นบาท โดยมอบแก่ น.ส.พอกาลี อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บจากเสือโคร่งกัด
อย่างไรก็ดี พบว่านายหวาน ผู้บาดเจ็บถูกเสือโคร่งกัดรายนี้ เป็นคนอยู่หมู่บ้านเดียวกับนายพรานที่โดนจับหลังล่าถลกหนังเสือโคร่ง 2 ตัว เมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คือหมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จึงอาจต้องสอบถามในรายละเอียดเรื่องการเข้าไปในป่า ว่า ไปต้อนฝูงควายจริงหรือไม่
ล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 29 ม.ค. นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งซาติเขาแหลม ได้ออกประกาศอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เรื่อง ห้ามบุคคลใดเข้าไปในพื้นที่ป่าบริเวณลำห้วยปิล๊อก-สะมะท้อ และบริเวณป่าใกล้เคียงในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ระบุว่า
"ด้วยเมื่อ 28 มกราคม 2565 ได้มีราษฎรหมู่บ้านปิล๊อกคี่ จำนวน 1 คน ถูกเสือโคร่งทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังนำสัตว์เลี้ยง ประเภท ควาย เข้าไปเลี้ยงในป่า บริเวณลำห้วยปิล๊อก-ลำห้วยสะมะท้อ ในท้องที่ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวอยู่ห่างจากหมู่บ้านปิล๊อกไปทางทิศตะวันตกเป็นระยะทางประมาณ 5-7 กิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้พิจารณาแล้ว เพื่อความปลอดภัยของราษฎรในพื้นที่ และเป็นการป้องกันมิให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีก จึงห้ามไม่ให้บุคคลใดเข้าไปในพื้นที่ป่าบริเวณลำห้วยปิล๊อก ลำห้วยสะมะท้อ ในท้องที่ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และบริเวณป่าใกล้เคียง เป็นระยะเวลา 90 วัน หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท อีกทั้งจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 มีโทษจำคุกไม่เกินสิบวัน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ หากผู้ใดมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น ให้ขออนุญาตจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลมทุกครั้ง เพื่อจะได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามระวังภัยให้กับผู้ที่จะเข้าไปในพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมดังกล่าวต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ 29 เดือนมกราคม พ.ศ. 2565 ประกาศโดย นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม"