เจ้าของบ่อดินเอกชนย่านบางพลี จ่ายเยียวยาเบื้องต้นให้กับ 27 ครัวเรือนที่กระทบจากดินสไลด์บ้านพังรายละ 10,000 บาท โดย จนท.มาตรวจสอบบ่อดินมีการเว้นระยะตาม ก.ม.หรือไม่ และกั้นพื้นที่ห้ามอยู่อาศัย

กรณีที่ชุมชนท้ายซอยศรีสัมพันธ์ หมู่ 15 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้เกิดดินสไลด์ตัวหลังจากคันดินกั้นขอบบ่อดินของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ประกอบกิจการขุดหน้าดินขายซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เกิดแตกทำให้น้ำในคลองบางเหี้ย ไหลเข้าไปในบ่อดินจนแห้งลง ทำให้ดินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเกิดการสไลด์ตัวลงไปในคลอง ส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 20 หลังคาเรือนพังถล่มลงไปกองรวมกันอยู่ภายในบ่อดินดังกล่าว

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ เวลา 14.00 น.วันที่ 22 มกราคม 2565 ทางผู้ประกอบการบ่อดินนายนรินทร์ นรินทร์สุขสันติ เจ้าของและเป็นผู้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบการบ่อดิน ได้มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 15 ที่เกิดเหตุเป็นตัวแทนในการเจรจากับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทราบว่าขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 27 ครัวเรือน เพื่อจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นครอบครัวละ 1 หมื่นบาท เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งส่งทีมช่างเข้ามาสำรวจพื้นที่ ที่ดินเกิดการสไลด์ และนำเครื่องตัดปูนมาทำการตัดแบ่งพื้นปูนเป็นช่วงๆ ช่วงละ 2 เมตร ที่อยู่ติดกับพื้นที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันการสไลด์ตัวของดินและลดทอนความเสียหาย

...

ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งบ้านเรือนพังเสียหาย และผู้ที่อยู่รอบใกล้เคียงที่เกิดเหตุเกิดความหวาดกลัวว่า ดินจะสไลด์เข้ามาถึงห้องพัก ได้พากันขนของย้ายไปเช่าบ้านอยู่ที่ด้านนอกกันเกือบหมดแล้ว มีเพียงบางส่วนที่ยังย้ายข้าวของกันยังไม่หมด ด้านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการตรวจวัดพื้นที่ขอบบ่อดินที่เกิดเหตุการณ์ถล่มว่า การเว้นระยะการขุดหน้าดินไปขายได้ทำการระเบียบหรือข้อกฎหมายที่ระบุไว้หรือไม่ ซึ่งตามระเบียบจะขุดลึกลงไปเท่าไรก็ต้องเว้นขอบบ่อซึ่งเป็นคันดินเอาไว้เท่านั้น เพื่อป้องกันการถล่มของคันดิน

น.ส.ปัทมา ทับทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ต.บางปลา เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางเจ้าของบ่อดินได้ติดต่อมาแสดงความรับผิดชอบแล้วโดยจะเยียวยานายนรินทร์ นรินทร์สุขสันติ เจ้าของและเป็นผู้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบการบ่อดิน เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นซึ่งไม่เกี่ยวกับการชดเชยค่าเสียหายและทรัพย์สินส่วนอื่นๆ และล่าสุดในวันนี้เท่าที่สอบถามหน่วยงานที่มาตรวจสอบทราบว่าขณะนี้ดินได้หยุดการเคลื่อนตัวแล้ว ส่วนแนวทางป้องกันทางเจ้าของบ่อดินได้จัดส่งทีมช่างมาเข้ามาสำรวจและใช้เครื่องจักรตัดพื้นปูนแบ่งเป็นช่วงๆ เพื่อกันระยะ ซึ่งถ้าเกิดการสไลด์ของพื้นดินอีกก็จะลงเป็นช่วงๆ ไม่ดึงลงไปทั้งหมด

...

พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ตนเป็นตัวแทนในการมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นครอบครัวละ 1 หมื่นบ้าน ซึ่งจะมีการมอบต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ที่จะเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและเป็นพยานในการมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น ซึ่งเมื่อช่วงเช้าก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี นำข้าวกล่องและน้ำดื่มและอาหารแห้ง มามอบให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และมีอดีตนายก อบต.บางปลา เดินทางมาให้กำลังใจชาวบ้านทุกวันโดยนำข้างกล่องมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

จากการพูดคุยกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ในเบื้องต้นส่วนใหญ่พอใจในการเยียวยาเบื้องต้นของผู้ประกอบการ เพราะจะได้มีค่าใช้จ่ายในการขนย้ายและไปเช่าสถานที่ใหม่อยู่ ไม่ต้องไปวิ่งหาเงินจากที่อื่นมาเป็นค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งขณะนี้สรุปตัวเลขออกมาแล้วมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 27 หลังคาเรือน แต่ก็จะมีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในเขตแนวกั้นเฝ้าระวัง แต่บ้านยังไม่ได้เสียหาย แต่พื้นที่นั้นพักอาศัยไม่ได้แล้ว ซึ่งในส่วนตรงนี้ก็ต้องเยียวยาด้วยเช่นกัน ซึ่งในวันนี้ก็จะมีการมอบเงินเยียวยาให้กับชาวบ้านต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ

...

ขณะที่ อบต.บางปลา ได้นำป้ายมาติดประกาศให้ระงับการขุดดิน ในบ่อดินที่เกิดเหตุ เป็นเหตุฉุกเฉินตาม พ.ร.บ.การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 มาตรา 31 ขณะที่ทางอำเภอบางพลี ได้นำป้ายมาปิดประกาศยังสถานที่เกิดเหตุ กำหนดให้เป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลใด ๆ เข้าไปหรือยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุเป็นระยะทาง 133 เมตร และจากสามแยกถนนคอนกรีตเสริมเหล็กไปทางทิศตะวันตกระยะทาง 136 เมตร

...

ส่วน พ.ต.ต.สิทธิพงษ์ ปานไทยสงค์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เปิดเผยว่า สำหรับในเรื่องคดีขณะนี้อยู่ระหว่างประสานขอตรวจสอบใบอนุญาตของผู้ประกอบการจาก อบต.บางปลา และหลักฐานอื่นๆ ก่อนที่จะเรียกผู้ประกอบการบ่อดินมาทำการสอบสวนอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป