สุดยื้อ ช้างป่างาด้วน “คุณปู่ป่าละอู” อายุ 60 ปีหนักกว่า 5 ตันล้มลงอย่างสงบ หลังบาดเจ็บจากถูกยิงกว่า 2 สัปดาห์ และแผลมีการติดเชื้อรุนแรง ผ่าชันสูตรพบกระสุนลูกซองเบอร์ 9 จ่อหาคนยิงมาดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจาก นายวุฒิพงษ์ ศรีช่วย ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถึงการรักษาช้างพลายงาด้วน ชื่อ “คุณปู่ป่าละอู” อายุ 60 ปี หนักกว่า 5 ตัน หลังได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลบริเวณลำตัวหลายจุดจากการต่อสู้และถูกยิงหลายแห่ง แผลค่อนข้างลึก ติดเชื้อในกระแสเลือดระดับรุนแรง มีหนองไหลจากแผลบริเวณท้ายลำตัว ร่างกายอ่อนแอ ซูบผอม ประกอบกับเป็นช้างป่าที่อายุมากแล้ว อาการจึงอยู่ในภาวะวิกฤติ บริเวณบ้านป่าแดง ใกล้บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน และล่าสุด “คุณปู่ป่าละอู” ได้ล้มลงอย่างสงบ บริเวณพิกัด 47P 0560068 E UTM 1391609 N ท่ามกลางความเสียดายของทีมสัตวแพทย์ที่เฝ้าติดตามรักษาอาการมานานถึงสองสัปดาห์ ก่อนให้พนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบ เคลื่อนย้ายซากไปผ่าพิสูจน์ ทำพิธีสวดบังสุกุลและฝังกลบที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 7 (เขาหุบเต่า) ต่อไป
...
นายพิชัย กล่าวว่า หลังได้ทราบอาการบาดเจ็บของคุณปู่ป่าละอู ได้แจ้งให้นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ชุดกู้ภัยและช่วยเหลือสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 ประทับช้าง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย ทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ และเจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย เข้ารักษาทำการวางยาซึม แต่ด้วยสภาวะร่างกายของช้างป่าค่อนข้างอ่อนแอ มีภาวะติดเชื้อทั่วร่างกาย โลหิตจาง ค่าไตและตับขึ้นสูงมาก จึงทำให้การเข้าถึงตัวค่อนข้างมีอุปสรรค หลังจากให้ยา
ช้างป่าได้ล้มตัวลงนอนกับพื้นในลักษณะที่หัวต่ำกว่าตัว เสี่ยงต่อภาวะสำลักและอาจมีภาวะอื่นๆ แทรกซ้อนตามมา จึงให้ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุง สารน้ำ และยากำจัดปรสิต ซึ่งบาดแผลของช้างที่พบมีหนองข้น ไหลออกจากด้านหลังทั้งสองแผล เป็นโพรงเข้าไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ ลึกประมาณ 2-3 ฟุต ซึ่งคาดว่าเป็นรอยจากการต่อสู้ ส่วนแผลที่บริเวณหัวและบริเวณกลางลำตัว ตรวจด้วยเครื่องตรวจโลหะ พบว่ามีโลหะอยู่ภายในบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย โดยทีมสัตวแพทย์ได้ล้างแผลและนำกระสุนออก เป็นกระสุนปืนลูกซองขนาด 9 จึงเก็บเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความ เพื่อหาตัวคนกระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป.