เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ยกคณะมาเยือนเฮียแป้น เจ้าของฟาร์มที่สามพราน หลังมีข่าว "ฝังหมูในโอ่ง" ตัดชิ้นเนื้อนำไปพิสูจน์ ด้านเจ้าของฟาร์มเชื่อหมูน่าจะติดโรค AFS เพราะตัวเหลืองเป็นจ้ำ เรียกร้องฟาร์มหมูออกมาเปิดเผยข้อมูล เพื่อช่วยกันหาทางออก และอยากให้เร่งผลิตวัคซีนเพราะถือเป็นโรคอุบัติใหม่

เวลา 10.00 น. วันที่ 14 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากฟาร์มหมูนายชาตรี กิจสมัคร หรือเฮียแป้น ตั้งอยู่ ต.สามพราน อ.สามพราน จ. นครปฐม ภายหลังมีข่าวแพร่สะพัดออกไปว่า พบมีซากหมูหลายร้อยตัวถูกยัดไว้ในโอ่ง หลังจากที่หมูตายด้วยโรคระบาด

จากการลงพื้นที่พบว่า ฟาร์มหมูดังกล่าว ตั้งอยู่ในเนื้อที่กว่า 15 ไร่ มีโรงเรือนจำนวน 8 โรงเรือน ด้านหลังเป็นป่าหญ้า นอกจากนี้ภายในฟาร์มยังมีโอ่งขนาดใหญ่จำนวน 9 ใบบรรจุซากหมูที่เสียชีวิตไว้ในโอ่ง ถูกปิดด้วยกระเบื้องและคลุมทับด้วยผ้าใบอีกหลายชั้น เมื่อเปิดออกมาพบมีแมลงและหนอนยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ซึ่งนายชาตรีเผยว่า ต้องการนำซากหมูมาทำปุ๋ยแล้ว นอกจากนี้ป่าหญ้าด้านหลังยังพบกะโหลกศีรษะของหมูและซากสัตว์หมูทั้งตัว เป็นโครงกระดูก โดยไม่ได้เคลื่อนย้าย หรือโยกย้ายซากสัตว์ที่เป็นโรคออกไปจากฟาร์มแต่อย่างใด

...

จากนั้นนายชาตรี ได้พาไปดูภายในโอ่งจำนวน 9 ใบที่อยู่ในฟาร์มหมู นั้น พร้อมเผยว่า ซากหมูที่ตาย น่าจะเกิดจากการเสียชีวิตด้วยโรค AFS โดยก่อนหน้านี้ หมูเริ่มตายทุกวันเฉลี่ยวันละ 10 ตัว คิดว่าหมูเริ่มเป็นโรคระบาด เพราะหลังจากที่หมูตายจะมีลักษณะตัวเหลืองช้ำเป็นจ้ำ ส่วนสาเหตุที่ต้องนำมาฝังกลบไว้ในโอ่ง เนื่องจากไม่อยากให้ไปรบกวนผู้อื่นและไม่อยากให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อน โดยหมักเอาไว้เพื่อจะนำกากน้ำตาลและหัวเชื้อมาใส่เติมน้ำให้เต็มทิ้งเอาไว้เป็นระยะเวลา 3 เดือนติดต่อกันเพื่อทำจุลินทรีย์หรือ EM แต่ในระหว่างนี้ก็ใส่น้ำยาฆ่าเชื้อไว้ตลอดเวลา ที่สำคัญคือไม่อยากเคลื่อนย้ายหรือโยกย้ายซากสัตว์ออกไปทิ้งไว้ด้านนอก เพราะไม่อยากให้ใครต้องเดือดร้อนคือเรียกง่ายๆ ว่าไม่อยากเห็นแก่ตัว ทิ้งไว้ในฟาร์มตัวเองดีกว่า

นายชาตรี กล่าวว่า เมื่อวานนี้ หลังจากที่มีข่าวแพร่สะพัดออกไป มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ด่านสัตว์จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอสามพราน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการทางสัตวแพทย์ภาคตะวันตก ได้เข้ามาตรวจสอบที่ฟาร์มและสถานประกอบการของฟาร์มนายชาตรี โดยทำการตรวจสอบเก็บเอาชิ้นเนื้อ รวมถึงเก็บเชื้อที่พื้นเพื่อหาเชื้อคาดว่าอีก 2 วันคงจะทราบผล

"อยากให้ฟาร์มหลายๆ ฟาร์มที่ได้รับผลกระทบ ออกมาพูดความจริงเพื่อช่วยกันหาทางออก และอยากให้ปศุสัตว์ ผลิตวัคซีนขึ้นมาทำการรักษาเพราะถือเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เรื่องโรคระบาดนี้เกิดมานานกว่า 2 ปีแล้ว แม้ว่าปศุสัตว์จะเข้ามาดูแล แต่มาเพราะเจ้าของฟาร์มอย่างเราไปร้องโอดโอย"

เจ้าของฟาร์มหมู กล่าวด้วยว่า ก่อนนี้เคยเลี้ยงหมูจำนวนมาก แต่ปัญหามีมาก ทั้งโรคระบาดและเรื่องของเงินทุน ยิ่งภายหลังมีโรคระบาดหนัก รวมแม่หมู ลูกหมู หมูรุ่น หมูใหญ่ที่ล้มตายไป 400-500 ตัว ในตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรตาย ไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นโรคอะไร ภายหลังทราบจึงนำไปทำลายโดยไว้ในโอ่งซึ่งในช่วงของการระบาดมีการฝังมากถึง 10 ตัว 20 ตัว ต่อวัน

...

ทั้งนี้ การที่ปศุสัตว์นำเชื้อไปเพาะและผลิตวัคซีนออกมาแก้ปัญหา น่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่เพิ่งเกิด จึงไม่มีใครทราบถึงสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร อยากให้ทุกฟาร์มให้ความร่วมมือ ที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะฟาร์มหมูกลัวกันไปเองว่าจะได้รับผลกระทบรวมไปถึงกลัวว่าจะขายหมูไม่ได้หรืออะไรก็ตาม ส่วนตัวที่ออกมาเปิดผย จนกระทั่งมีข่าวลือว่าถูกขู่ฆ่านั้น คงเป็นเรื่องของการพูดแกล้งกันมากกว่า เพียงแต่ว่าครอบครัวเป็นห่วงมาก ตอนนี้ลูกๆ เขาก็สั่งให้พ่อหยุดพูดแล้ว