สาวสวยเจ้าของธุรกิจเบเกอรีสุดทน คู่กรณี “นัทโอนไว” นำรูปภาพไปใช้สมัครแอปหาคู่หลอกลวงตุ๋นเงินเหยื่อหนุ่มฐานะดีหลายราย ได้เงินไปนับแสนบาท ทำให้เสียหายไม่กล้าโพสต์รูปลงโซเชียลมีเดีย แถมถูกหนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อนำรูปไปโพสต์ประจานในโซเชียล แจ้งตำรวจไซเบอร์แกะรอยล่ากระทั่งตามล็อกตัวได้คาคอนโดมิเนียมย่านอ่อนนุช แฉนอกจากนำรูปไปหลอกลวงผู้ชาย ยังหลอกขายขนมด้วย เชื่อผู้ต้องหาไม่สำนึกผิดเกรงจะก่อเหตุซ้ำอีก ด้าน ผบก.สอท.1 เผยเฉพาะปีนี้มีผู้ชายตกเป็นเหยื่อแล้ว 5 ราย สูญเงินกว่า 4 แสนบาทตำรวจไซเบอร์ตามรวบสาวแสบใช้รูปสาวสวยตีสนิทหลอกเหยื่อผู้ชายหลายราย เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น้องโบนัส หรือ น.ส.ขวัญฤดี (ปกปิดนามสกุล) นักธุรกิจผลิตและขายเบเกอรี มอบช่อดอกไม้ขอบคุณ พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1 และตำรวจ บก.สอท.1 ที่ติดตามจับกุมนางนันท์นลิล หรือผึ้ง ภควัตสุวรรณ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/53 หมู่ 2 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. ที่นำภาพของน้องโบนัสไปใช้หลอกลวงตุ๋นเงินหนุ่ม “สายเปย์” ทำให้น้องโบนัสได้รับความเสียหาย พร้อมขอให้ไปพบหน้าผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนสอบปากคำ เพื่อถามถึงเหตุผลที่นำภาพไปหลอกเงินหนุ่มสายเปย์หลายรายสูญเงินนับแสนบาทสำหรับเบื้องหลังการจับกุมสาวนักตุ๋นรายนี้ พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1 เปิดเผยว่าเมื่อเดือน พ.ย. น.ส.ขวัญฤดีเข้าร้องเรียนกับตำรวจ กก.2 บก.สอท.1 บช.สอท. ว่า มีคนร้ายนำภาพของตนไปใช้โพสต์ในสื่อโซเชียลเพื่อหลอกลวงผู้อื่นให้โอนเงินให้แก่คนร้าย เชื่อว่าเป็นมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชน จึงรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่าคนร้ายคือ น.ส.นันท์นลิล หรือผึ้ง ภควัตสุวรรณ นำรูปภาพหญิงสาวหน้าตาดีไปสร้างประวัติปลอมในโลกออนไลน์ ก่อนหลอกลวงชายหนุ่มให้โอนเงิน มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่ง พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. สั่งการให้เร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วผบก.สอท.1 กล่าวต่อว่า กระทั่งบ่ายวันที่ 1 ธ.ค. พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 พ.ต.ท.เรืองกฤษณ์ ศิริมาจันทร์ พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ รอง ผกก.2 บก.สอท.1 นำกำลังพร้อมหมายจับศาลอาญา ที่ 2046/2564 ลงวันที่ 1 ธ.ค.2564 บุกเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ที่นิรันดร์คอนโดมิเนียม ย่านอ่อนนุช กรุงเทพฯ แจ้งข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลและภาพของผู้อื่น ทำให้ผู้นั้นได้รับความเสียหาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น อีกทั้งได้ทำการตรวจสอบพยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ต้องหา พบว่าได้ใช้รูปและโปรไฟล์ปลอมสมัครแอปพลิเคชันหาคู่หลายแอปฯ แล้วเข้าไปทักผู้ชายฐานะดีพูดคุยตีสนิท ก่อนอ้างเหตุผลหลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีให้ แล้วบล็อกบัญชีหนีพล.ต.ต.รณชัยกล่าวต่อว่า สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยในปี 2564 หลอกลวงเหยื่อผู้ชายให้โอนเงินให้แล้ว 5 คน รวมเป็นเงินกว่า 4 แสนบาท โดยนำเงินไปใช้จ่ายซื้อสิ่งของส่วนตัว ไม่ได้โอนย้ายเงินต่อไปยังบัญชีบุคคลอื่น แต่มีการใช้บัญชีของผู้อื่น หรือ “บัญชีม้า” รับโอนเงินจากเหยื่อ ส่วนสามีของผู้ต้องหาไม่ได้เกี่ยวข้องหรือไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย หลังสอบสวนจะส่งผู้ต้องหาไปให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดี ในส่วนของผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกให้โอนเงิน ทราบว่ายังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นคนในวัยทำงานและมีครอบครัวแล้วด้าน น.ส.ขวัญฤดี หรือน้องโบนัส สาวผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากการที่ผู้ต้องหานำรูปไปใช้แอบอ้างหลอกผู้ชายตั้งแต่ปี 2563 โดยลอกเลียนรูปโปรไฟล์ ไลฟ์สไตล์ ชีวิตประจำวัน การทำขนมของตนเองทุกอย่าง นำไปสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ชายหลงเชื่อและหลงรัก เชื่อว่าผู้ต้องหามีรูปของตนเซฟเก็บไว้กว่า 500 รูป เป็นรูปที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กและไอจีส่วนตัว นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังใช้รูปตนไปหลอกขายขนม แต่ไม่ส่งขนมให้ลูกค้า เมื่อถูกลูกค้าทวงถามก็จะอ้างว่ามีปัญหาชีวิต ถูกทำร้าย จะฆ่าตัวตาย เพื่อไม่ให้ลูกค้าทวงถามอีกสาวผู้เสียหายกล่าวว่า ตนทราบว่าถูกนำรูปไปแอบอ้าง เพราะผู้ชายที่ถูกหลอกติดต่อมาบอก และตนไปแจ้งความมาแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า จากนั้นมีข่าวผู้ต้องหาถูกจับกุมคดี “นัทโอนไว” และหลายคดีตามมา รวมถึงยังมีเหยื่อบางคนนำรูปของตนไปโพสต์ประจานในโซเชียล เพราะเข้าใจว่าถูกตนหลอก ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง ไม่กล้าโพสต์รูปลงโซเชียลมีเดียอีก และแม้ว่าผู้ต้องหาถูกจับกุมก็ไม่รู้ว่าจะได้รับการประกันตัวออกมาก่อเหตุอีกหรือไม่น.ส.ขวัญฤดี กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ต้องหาพบตนได้กล่าวขอโทษ ไม่ได้มีเจตนาทำร้าย เพียงแค่ชื่นชอบว่าทางตนทั้งสวย ทั้งเก่ง ได้ตำหนิการกระทำของผู้ต้องหาไป เชื่อว่าผู้ต้องหายังไม่สำนึกผิด ยังคงพูดจาโกหกเหมือนเดิม เกรงว่าสิ้นสุดคดีนี้ทางผู้ต้องหาจะออกมาก่อเหตุลักษณะเดิมซ้ำอีก ส่วนตัวแล้วต้องใช้คำว่า “หน้าด้าน” เพราะทางผู้ต้องหาเคยบอกกับทางเหยื่อชายว่าเขาไม่กลัวอยากจะแจ้งความดำเนินคดีอย่างไรก็เชิญสำหรับนางนันท์นลิล เคยใช้ภาพของน้องโบนัส ผู้เสียหาย สมัครใช้งานแอปหาคู่ โดยใช้ชื่อ “น้องขวัญ” ตีสนิทนายสรฉัตร ผลวัฒนา หรือนัท โอนไว หลอกเอาเงินไปร่วมนับแสนบาท นายสรฉัตรได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองจันทบุรี จนถูกจับกุมกลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อปี 2561 แต่ผู้ต้องหาไม่เข็ดหลาบ ยังมาก่อเหตุซ้ำ นำรูปน้องโบนัส ไปลงในโปรไฟล์สมัครในแอปหาคู่หลายแอป เข้าไปตีสนิทผู้ชายฐานะดีแล้วอ้างเหตุผลหลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี หากเหยื่อรายใดนัดเจอกัน จะหาเหตุผลต่างๆในการปฏิเสธและสุดท้ายจะบล็อกหนีไปในที่สุด