เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงสุด ทะลักแนวกั้น ท่วมบ้านเรือนเรือกสวนริมแม่น้ำในหลายอำเภอของ จ.นครปฐม เสียหายหนัก ชาวบ้านบอกน้ำปีนี้มากกว่าปีน้ำท่วมใหญ่ 2554 เสียอีก หวั่นฝนตกซ้ำจะท่วมมากกว่านี้จนมิดหลังคา
วันที่ 8 พ.ย. 64 ที่ จ.นครปฐม สถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่รับน้ำจากประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา จ.สุพรรณบุรี ยังมีการปล่อยน้ำลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่ล้นตลิ่งทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำอยู่แล้ว เอ่อล้นเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเช้าของวันที่ 7-9 พ.ย. น้ำทะเลจะหนุนสูงสุด ทำให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่จะผลักดันลงสู่อ่าวไทยได้น้อย ทำให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณน้ำมากขึ้น ล้นตลิ่งท่วมบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำแม่น้ำ อ.บางเลน อ.นครชัยศรี อ.สามพราน อ.ดอนตูม อ.กำแพงแสน น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมตลาด ชุมชน บ้านเรือน ที่อยู่ใกล้แม่น้ำในหลายพื้นที่ หลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมตัดขาด ต้องใช้เรือในการสัญจรอย่างเดียว
โดยเฉพาะที่ อ.สามพราน น้ำจากแม่น้ำท่าจีนได้ทะลักล้นคันกั้นแนว น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนรวมถึงสวนเกษตร เช่น สวนกล้วยไม้ สวนส้ม สวนฝรั่ง น้ำเข้าท่วมสูงกว่า 80 ซม. เสียหายนับพันไร่ ในส่วนของบ้านเรือนน้ำยังเข้าท่วมบ้านสูงกว่า 1 เมตรในหลายตำบล รถเก๋ง รถกระบะ ไม่สามารถวิ่งผ่านเส้นทางเข้าหมู่บ้านได้หลายจุด รวมถึงในตลาดสามพราน ซึ่งมีทั้งบ้านเรือนและตลาดสดอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนต้องหยุดการค้าขายทั้งหมด เพราะน้ำทะลักล้นแนวกระสอบทรายที่กั้นไว้ เข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า สูงร่วม 1 เมตร ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำครั้งนี้มีมากกว่าเมื่อปี 54 ครั้งที่น้ำท่วมใหญ่ ประกอบกับมีการปล่อยน้ำลงในแม่น้ำท่าจีนต่อเนื่อง แถมน้ำทะเลยังหนุน ทำให้ระบายน้ำได้ช้ากว่าปกติเพราะน้ำยันกันอยู่ หากยังมีฝนตกลงมาอีกน้ำคงมิดหลังคาบ้าน
...
ทางด้าน นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.นครปฐม ได้รับรายงานสั่งให้ ปภ.นครปฐม ออกช่วยเหลือนำทรายเพื่อใส่กระสอบทำกำแพงเสริม และให้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเร่งระบายน้ำออก เพราะพื้นที่ อ.สามพราน ถือเป็นจุดที่ทำรายได้ให้กับจังหวัดมากที่สุด และสินค้าเกษตรส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ให้นำถุงยังชีพออกแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมด้วย
ส่วน จ.สมุทรปราการ ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงเช่นกัน ทำให้ถนนหลายสายที่อยู่ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำทะเลไหลทะลักเข้าท่วมทั้งถนน ตลาด และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ โดยเฉพาะถนนหลายถนนรถรางสายเก่า บริเวณปั๊ม ปตท. ตั้งแต่วัดราษฎร์บำรุงไปจนถึงศาลเยาวชนและครอบครัว ถนนสุขุมวิทช่วงหน้าโรงเรียนเรือ วัดมหาวงษ์ ถนนท้ายบ้าน ตลาดปากน้ำ และฝั่ง อ.พระประแดง ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ถนนสุขสวัสดิ์ รวมไปถึงชุนชนย่าน ต.คลองด่าน พ่อค้าแม่ค้าตลาดปากน้ำสมุทรปราการซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาต้องหยุดขายของเป็นการชั่วคราว
จากการลงพื้นที่สำรวจบริเวณศูนย์ค้าส่งทราบ บริษัทเคจี ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขุมวิทใกล้กับโรงเรียนนายเรือ ซึ่งเป็นจุดที่น้ำเอ่อล้นแนวกั้น ไหลทะลักเข้ามาทวมถนนสุขุมวิท เนื่องจากแนวกันทรายถูกน้ำเซาะจนพัง พนักงานระดมเครื่องมือหนัก รถแบ็กโฮขุดทรายอุดแนวรั่วได้สำเร็จ กระทั่งเวลา 10.00 น. น้ำจึงเริ่มลดระดับลงเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังมีบริเวณภายในวัดมหาวงษ์ที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ และเป็นพื้นที่ต่ำ ยังมีน้ำขังอยู่ประมาณ 40 ซม.
อย่างไรก็ตาม หลังจากน้ำลดพบว่ามีขยะลอยเข้ามาบนถนนสุขุมวิทเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองปากน้ำนำเจ้าหน้าที่รถตักดินรถดูดฝุ่นเข้าเก็บกวาดทำความสะอาด
นายสมชาย ท้วมทอง อายุ 47 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า อยู่ปากน้ำมาตั้งแต่เด็ก พบเห็นน้ำขึ้น-น้ำลงในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นปกติ จึงไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด น้ำจะหนุนสูงในช่วงประมาณ 08.30 น. และไหลกลับไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ปีนี้พบว่าน้ำสูงกว่าปกติ ประกอบกับบริเวณท่าทรายซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวัดมากนัก แนวกั้นเกิดพังทำให้น้ำไหลทะลักเข้ามาและท่วมถนนสุขุมวิทอย่างรวดเร็ว.