ลูกชายทายาทเจ้าของร้านขายอุปกรณ์เกษตรรายใหญ่เมืองขุนแผน ขับรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ตามแฟนสาวไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนในตัวเมืองปากน้ำโพ ขากลับเกิดคลาดกันเพราะไม่ชินทาง ฝ่ายชายใช้จีพีเอสนำทางแต่กลับพาไป เกิดประสบอุบัติเหตุพุ่งตกแม่น้ำเจ้าพระยาจมหาย โทร.บอกแม่เป็นสายสุดท้ายก่อนติดต่อไม่ได้อีก ครอบครัวแจ้งกู้ภัยระดมค้นหา 2 วัน ยังไม่พบร่องรอย ตรวจสอบพิกัดจีพีเอสในมือถือของคนขับถึงผงะ เจอสัญญาณแจ้งอยู่กลางแม่น้ำที่ทั้งลึกและไหลเชี่ยว

ระดมกู้ภัยค้นหาหนุ่มขับรถพุ่งตกแม่น้ำเจ้าพระยา จมหายไร้ร่องรอยครั้งนี้ เปิดเผยช่วงสายวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดยูเทิร์นใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ทางหลวงหมายเลข 122 ต.กลางแดด อ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อตรวจสอบกรณีมีผู้ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์พุ่งลงไปในทางลงแม่น้ำเจ้าพระยาใต้สะพาน เมื่อเวลาประมาณ 23.40 น. คืนวันที่ 5 พ.ย. เมื่อไปถึงพบทีมนักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยนครสวรรค์ นำอุปกรณ์ดำน้ำ และเรือติดเครื่องยนต์เข้าร่วมค้นหามากว่า 2 วันแล้ว และตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประดาน้ำจากทีมกู้ภัย ยังระดมทีมร่วมปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายในจุดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีวี่แววจะพบร่างคนขับและรถยนต์คันที่สูญหาย การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะระดับน้ำขึ้นสูง น้ำสีขุ่น และไหลเชี่ยวกราก

ทราบว่าผู้ที่ขับรถยนต์มาประสบอุบัติเหตุพุ่งตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา คือ นายธีระภัทร์ ธีรพงศ์ไพบูลย์ อายุ 27 ปี บุตรชายเจ้าของร้านขายอุปกรณ์การเกษตรรายใหญ่ใน จ.สุพรรณบุรี สูญหายไปพร้อมรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีแดง ทะเบียน 5 กส 6702 กรุงเทพมหานคร ในที่เกิดเหตุมีนางพินิจ ธีรพงศ์ไพบูลย์ มารดาผู้สูญหาย ให้ข้อมูลว่า ช่วงสายวันที่ 5 พ.ย. บุตรชายขับรถออกจากบ้านใน จ.สุพรรณบุรี มาหาแฟนสาวชื่อ น.ส.แพรว มีบ้านอยู่ใน อ.มโนรมณ์ จ.ชัยนาท จากนั้นชักชวนกันไปร่วมงานวันเกิดเพื่อน น.ส.แพรว ในตัวเมืองนครสวรรค์ กระทั่งค่ำบุตรชายได้ขับรถมุ่งหน้ากลับ จ.สุพรรณบุรี เพียงลำพัง และมาประสบอุบัติเหตุขับรถพุ่งลงแม่น้ำดังกล่าว

...

นางพินิจ ธีระพงษ์ไพบูลย์ มารดาของนายธีระภัทร์ระบุว่า วันเกิดเหตุช่วงเวลา 23.00 น. ขณะพักผ่อนอยู่ที่บ้านใน จ.สุพรรณบุรี มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายเป็นเบอร์บุตรชายโทร.มาบอกว่าขับรถประสบอุบัติเหตุพุ่งตกลงไปในแม่น้ำ และรถกำลังจะจม จู่ๆสัญญาณขาดหายไปติดต่อไม่ได้อีก ตนตกใจมากรีบบอกทุกคนในครอบครัวให้ช่วยกันหาทางติดต่อบุตรชายโดยเร็ว เพราะรู้เพียงว่ามาหา แฟนสาวที่ จ.ชัยนาท แต่ไม่รู้ว่าไปประสบอุบัติเหตุในจุดไหน กระทั่งได้เช็กพิกัดจีพีเอสจากโทรศัพท์มือถือของบุตรชาย พบสัญญาณอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำ เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์

ขณะที่ น.ส.แพรว แฟนสาวของนายธีระภัทร์ ได้เดินทางมายังจุดที่เกิดเหตุเพื่อให้ปากคำกับตำรวจระบุว่า วันเกิดเหตุ น.ส.แพรว และนายธีระภัทร์ ใช้รถคนละคัน เนื่องจากนายธีระภัทร์ขับรถมาจาก จ.สุพรรณบุรี แต่มาถึงที่บ้าน น.ส.แพรว ช้ากว่าที่นัดกันไว้ น.ส.แพรวต้องรีบออกจากบ้านไปซื้อเค้กวันเกิดให้เพื่อนรักก่อน แล้วนัดเจอกันที่งานเลี้ยงในตัวเมืองนครสวรรค์ ส่วนนายธีระภัทร์จะขับรถตามมาร่วมงานทีหลัง กระทั่งงานเลิก น.ส.แพรว ขับรถนำหน้ามุ่งกลับบ้านใน จ.ชัยนาท แล้วให้นายธีระภัทร์ขับรถตามมา

ปรากฏว่าระหว่างทาง นายธีระภัทร์ที่ไม่คุ้นชินเส้นทาง ขับตามไม่ทันและเกิดหลงกันในจุดทางเลี่ยงเมือง แต่ น.ส.แพรวขับห่างออกไปไกลแล้วเลยไม่ได้วนรถกลับมาตามหา แต่ได้โทรศัพท์มา สอบถามตลอดเวลา นายธีระภัทร์บอกมาว่าไม่ต้องรอให้ขับกลับบ้านได้เลย เพราะมีจีพีเอสนำทางสามารถขับไปเองได้ น.ส.แพรวบอกว่า จะไปจอดรอที่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ สุดท้ายไม่พบนายธีระภัทร์แต่อย่างใด

คนใกล้ชิดให้ข้อมูลว่า น.ส.แพรว และนายธีระภัทร์ ผู้สูญหาย เพิ่งคบหากันได้เพียง 4 เดือน ทั้ง 2 คนต่างมีกิจการขายอุปกรณ์การเกษตรเช่นกัน ได้พบเจอกันครั้งแรกตอนไปร่วมงานสัมมนาขายเครื่องมือการเกษตรงานหนึ่ง ได้พูดคุยติดต่อกันเรื่อยมาจนคบหาเป็นแฟนกัน นายธีระภัทร์เคยพาพ่อแม่ไปพบปะและรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวของ น.ส.แพรว มาแล้ว สำหรับนายธีระภัทร์เป็นบุตรชายคนเดียวของครอบครัวนักธุรกิจขายเครื่องมือการเกษตรรายใหญ่ของ จ.สุพรรณบุรี เป็นคนเรียบง่าย ไม่ชอบความหรูหรา ถูกวางตัวไว้ให้ดำเนินธุรกิจต่อแทนบิดามารดาในอนาคต เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นทำให้นางพินิจ มารดาเสียใจเป็นอย่างมาก ร้องห่มร้องไห้ตลอดเวลา

ต่อมาเวลา 14.00 น. เรือสำรวจติดเครื่องโซนาร์ ได้สแกนพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณห่างจากวัดเกาะหงษ์ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปทางทิศใต้ประมาณ 200 เมตร รีบส่งทีมประดาน้ำลงไปดำค้นหา หลังจากชุดประดาน้ำ ลงไปดำค้นหาวัตถุต้องสงสัยแล้วปรากฏว่าไม่ใช่รถยนต์ที่สูญหาย จากนั้นได้ให้เรือติดเครื่องโซนาร์ออกสำรวจต่อ ขณะเดียวกันได้ระดมหน่วยกู้ภัยจากนอกพื้นที่ มีชุดกู้ภัยอยุธยา มูลนิธิเจ้าพ่อกวนอู กู้ภัยนครสวรรค์ ทีมกู้ภัย อบจ.อุทัยธานี กู้ภัยตาคลี และ มูลนิธิร่วมกตัญญู รวมกว่า 200 คน เข้าร่วมกันค้นหา อย่างเข้มข้น มีรายงานว่าในช่วงเย็น พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. จะเดินทางลงมาดูพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการค้นหาในครั้งนี้

จากการสอบถามพยานที่เป็นชาวบ้านในละแวก ใกล้ที่เกิดเหตุให้ข้อมูลกับตำรวจอ้างว่า เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 5 พ.ย. เห็นแสงไฟจากหน้ารถส่องสว่างอยู่กลางแม่น้ำ เจ้าพระยา ห่างจากตอม่อสะพานเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ประมาณ 100 เมตร ครั้งแรกยังคิดว่าเป็นเรือของชาวบ้านมาส่องหาปลา แต่พอเพ่งมองอยู่นานจนมั่นใจ ว่าเป็นแสงไฟจากหน้ารถ และแสงไฟค่อยๆจมลงน้ำ หายไป รีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบแต่ในครั้งแรกไม่พบ ประกอบกับจุดเกิดเหตุเป็นเส้นทางลงแม่น้ำที่ชาวบ้านจะใช้กันเท่านั้น เป็นทางขึ้น-ลงของรถยนต์ เพื่อไปลากจูงเรือขึ้นฝั่ง หรือช่วงน้ำลงจะมีชาวบ้านนำ รถยนต์ รถ จยย.มาล้างทำความสะอาด ผู้เห็นเหตุการณ์ เลยไม่คิดว่าจะมีใครหลงทางมาจนขับรถตกลงไปในแม่น้ำดังกล่าว ขณะเดียวกันตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้สูญหายใช้ ตั้งแต่จุดที่ออกจากร้านอาหารหลังไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนของ แฟนสาว กระทั่งมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสคลี่คลายปมปริศนาอย่างเร่งด่วน

เวลา 19.30 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เดินทางมาถึงบริเวณจุดยูเทิร์นรถใต้สะพานเบี่ยงเมืองนครสวรรค์ เพื่อรับฟังรายละเอียดจาก พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ หลังจากได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอนแล้วว่า รถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีแดง ทะเบียน 5 กส 6702 ของ นายธีระภัทร์ ธีรพงศ์ไพบูลย์ อายุ 27 ปี ผู้สูญหาย น่าจะตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้วาดแผนที่และเส้นทางการขับรถของนายธีระภัทร์ ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ได้ดูด้วย ขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนของนายธีระภัทร์ได้นำหุ่นยนต์ใต้น้ำ ROV มาช่วยดำดูใต้น้ำลึกเพื่อค้นหารถยนต์คันดังกล่าวด้วย ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งหมดจะค้นหาจนถึงเวลาตี 1 แล้วจะยุติปฏิบัติการ ก่อนเริ่มค้นหาต่อในช่วงสายวันรุ่งขึ้น เนื่องจากในช่วงค่ำกระแสน้ำเชี่ยวและมีความมืดมากเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกับทีมค้นหาได้

...