กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกทั่วประเทศ ประกาศร่วมจัดกิจกรรม Truck Power รวมตัวกันออกเคลื่อนพลพร้อมกันทั่วประเทศทั้ง 7 จุด เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงพลังงาน ช่วยตรึงดีเซลเหลือลิตรละ 25 บาทนาน 1 ปี
ตามที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้นัดระดมสมาคมรถบรรทุกฯ จากทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรม “Truck Power : พลังคนรถบรรทุกเพื่อประชาชน” เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพงนั้น
เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564 ที่บริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมืองราชบุรี จ.ราชบุรี นายชัยพล แซ่เฮง รองนายกสมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก พร้อมนายบุญชู กัลยาวุฒิพงส์ เลขาสมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก ได้นำกลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถสิบล้อจากภาคตะวันตกและภาคใต้ตอนบน ที่ทนแบกรับภาระต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลไม่ไหว ได้นำรถบรรทุกและรถสิบล้อมารวมตัวกันกว่า 100 คัน วิ่งบนถนนเพชรเกษมสาย 4 เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์ ในการเรียกร้องให้รัฐบาลกลับมาสนใจและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถสิบล้อ ช่วยตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 25 บาทต่อลิตร, ลดภาษีสรรพสามิตลง 5 บาทต่อลิตร และยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนพลังงาน เป็นระยะเวลา 1 ปี

...
ทั้งนี้กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกและสิบล้อภาคตะวันตกและภาคใต้ตอนบน จะวิ่งออกเคลื่อนพลจากจุดเริ่มต้น อ.เมือง จ.ราชบุรี, เข้าแยกปากท่อ, จ.สมุทรสงคราม, จ.สมุทรสาคร, ถ.กาญจนาภิเษก (ด่านทางด่วนศรีรัช), ถนนบรมราชชนนี, จ.นครปฐม และวนกลับที่ตั้ง โดยจะไม่เข้ากรุงเทพฯ ซึ่งจะเริ่มวิ่งพร้อมกับกลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกและสิบล้อทั้ง 7 จุดทั่วประเทศ ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังไม่ช่วยเหลือ ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงหยุดให้บริการ

ขณะที่ นายบุญชู กัลยาวุฒิพงส์ เลขาสมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก กล่าวว่า วันนี้พวกตนมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้ภาครัฐมาดูแลราคาน้ำมัน ไม่ใช่เกี่ยวกับการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เราไม่ได้เป็นม็อบ เรามาแสดงสัญลักษณ์ในนามกลุ่มภาคการขนส่ง เราเดือดร้อนจากราคาที่สูงขึ้นทุกวัน จนวันนี้ราคาแตะที่ 30 บาทแล้ว กระทบภาคประชาชน ทำให้ประชาชนต้องรับภาระราคาสินค้าที่สูงขึ้น โดยเราจะวิ่งรถออกจากอ.เมืองราชบุรี ไปอ.ปากท่อ ต่อไปจ.สมุทรสงคราม, จ.สมุทรสาคร และเข้าถนนกาญจนาภิเษก และจะมีประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวบริเวณถนนกาญจนาภิเษก และกลับมาที่จ.นครปฐม ซึ่งในส่วนกลุ่มของวันนี้มีรถบรรทุกเข้าร่วมจำนวนกว่า 100 คัน จากจ.เขตภาคตะวันตก และภาคใต้ตอนบน ซึ่งทั้งหมดจะมีอีก 6 จุด รอบ กทม. และภาคอีสานอีก 1 จุด รวมเป็น 7 จุด

นายบุญชู กล่าวต่อว่า จากสถิติราคาน้ำมันที่ผ่านมาไม่มีการปรับราคาลงที่แท้จริง พอภาครัฐแจ้งปรับลง 60 สตางค์ อีก 2 วัน ก็จะปรับขึ้น 2 บาท วนซ้ำจนทุกวันนี้ราคาแตะพุ่งสูงทะลุขึ้น 30 บาท และจะเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปพบยื่นข้อเสนอให้รัฐช่วยเหลือในเรื่องของราคาน้ำมัน แต่ไม่ได้รับการตอบสนองไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด หลังจากการแสดงสัญลักษณ์ในวันนี้ ถ้าหากภาครัฐยังนิ่งเฉยอยู่ เราจะมีการยกระดับในเรื่องของการแสดงพลัง แสดงในเรื่องการเรียกร้องให้ภาครัฐมาดูแลราคาน้ำมัน เรื่องที่เราเรียกร้องคือ ให้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 25 บาทเป็นระยะเวลา 1 ปี

...
สำหรับในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ขบวน “Truck Power” ได้เคลื่อนมาถึงเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. โดยในขบวนมีทั้งรถยนต์นำขบวน รถบรรทุก รถบัส และรถพ่วง แต่ละคันได้ร่วมกันติดป้ายเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง เช่น น้ำมันขึ้นราคากำลังฆ่าประชาชน, โควิดยังไม่สิ้น ต้องมาดิ้นค่าน้ำมัน เห็นใจประชาชนบ้าง # น้ำมันแพง เป็นต้นนั้น ซึ่งตลอดระยะทางที่ขบวนขับเคลื่อนผ่านก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ความรับผิดชอบของ สภ.บางโทรัด, สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง อำนวยความสะดวกทางด้านการจราจร เพื่อไม่ให้เกิดการติดขัดหรือกีดขวางการจราจรสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนปกติ ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีการต่อต้านจากผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่น และไม่มีอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้น

ที่บริเวณลานจอดรถ หน้าประตู 2 เขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นางสุนีย์ ภูติวณิชย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี ได้รวมกับผู้ประกอบการรถบรรทุก จัดกิจกรรม TRUCK POWER เพื่อเรียกร้องและข้อเสนอแนะ จำนวน 5 ข้อ โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการตรึงราคาน้ำมันดีเซล (B7 หรือ B6) ราคาขายปลีก 25 บาท
...

ด้านนางสุนีย์ ภูติวณิชย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบังชลบุรี กล่าวต่อว่า ทางสมาคมได้ปฏิบัติตามมาตรการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมโดยสงบ และก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมเราได้มีการแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

ที่หน้าห้างเมืองวัสดุทางหลวงหมายเลขที่ 226 กันทรารมย์-วารินชำราบ บ้านทางสาย ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถโดยสาร 3 จังหวัดอีสานตอนล่าง ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี นำรถบรรทุก 10 ล้อพ่วง รถโดยสารปรับอากาศ และรถตู้วิ่งประจำทางกว่า 200 คัน มาจอดรวมตัวฝั่งขาเข้าอำเภอวารินชำราบ เคลื่อนขบวนเป็นสัญลักษณ์ไปตามเลี่ยงเมืองเข้าสู่ตัวจังหวัดอุบลราชธานี ไปสิ้นสุดที่สี่แยกวนารมย์ อ.เมือง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมและลดราคาน้ำมันดีเซลให้เหลือไม่เกินลิตรละ 25 บาท เพราะปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลมีการปรับตัวขึ้นทุกวันส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถบรรทุก รถโดยสาร
...


ด้าน นายพีระพล บุญชิณวงค์ ที่ปรึกษาสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของน้ำมันดีเซลในวันนี้ ส่งผลต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งผู้ประกอบไม่ต้องการไปขึ้นราคาค่าบรรทุก หรือค่าโดยสาร เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ใช้บริการ จึงต้องการให้มีการควบคุมราคา หรือไปลดภาษีสรรพสามิตให้ราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 25 บาท หากภาครัฐเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้อง กลุ่มผู้ประกอบการจะยกระดับการประท้วงตามมติของสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทยต่อไป

ที่บริเวณ ถนนพหลโยธิน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 66 ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วงใต้สะพานต่างระดับ อำเภอวังน้อยมุ่งหน้าอำเภอธัญบุรี กลุ่มบรรดารถสิบล้อและรถทัวร์กว่า 70 คันเดินทางผ่านพื้นที่อำเภอวังน้อย เพื่อเรียกร้องและแสดงจุดยืน แสดงสัญลักษณ์และกดดัน รัฐบาลคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่ง แก้ไขความเดือดร้อนของพี่ประชาชนและอาชีพขนส่ง โดยมีรถบรรทุก และรถพ่วงได้ติดป้ายแสดงออกถึงข้อเรียกร้อง

ปัจจุบันมีรถบรรทุกที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ประมาณ 1.4 ล้านคัน ในจำนวนนี้ได้รับผลกระทบจากโควิดมาต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้รถบรรทุกมีการขนส่งแค่ 30 – 40 % เท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทสินค้าอุปโภค – บริโภค ปิโตรเลียม น้ำมัน ส่วนสินค้าประเภทภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมมีการหยุดชะงัก เพราะภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และประสบปัญหาอุทกภัยในขณะนี้

นาย ธนสันต์ กุลเภตรานนท์ อายุ 58 ปี รองเลขาธิการสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน กล่าวว่า วันนี้มีรถที่อยู่ในสมาคม เข้าร่วม 30 และมีผู้ร่วมทาง เป็นรถบรรทุกและรถบัสปรับอากาศ อีกเข้ามาเสริมประมาณ 70 กว่าคัน กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันไม่เห็นด้วยกับมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กระทรวงพลังงาน และข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันดีเซลที่มีราคาสูงตามหนังสือของสหพันธ์ฯ ที่ได้เรียกร้องไปก่อนหน้านี้

ส่วนบริเวณช่องทางด่วน ถนนเทพรัตนขาเข้าหลักกิโลเมตรที่ 12 บริเวณหน้าห้าง มาร์เก็ตวิลเลจ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้มีกลุ่มรถบรรทุกพ่วงกว่า 100 คันที่เคลื่อนตัวมาจากพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มาจอดเรียกร้องรัฐบาลขอให้ตึงราคาน้ำมันดีเซลโดยแต่ละคันได้มีป้ายไวนลติดอยู่ข้างรถมีข้อความว่า เศรษฐกิจบอบช้ำ งดคิดกำไรก่อนได้ไหม / น้ำมันขึ้นราคา กำลังฆ่าประชาชน / น้ำมันแพง ประชาชนจะมีแรงต่อสู้เศรษฐกิจไหม เป็นต้นจอดเป็นทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บางแก้ว และ สภ.บางพลี เข้าตรึงกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบและอำนวยการจราจรที่ติดขัดเป็นทางยาว ส่งผลให้การจราจรขาเข้ากทม.ในบริเวณดังกล่าวติดขัดสะสมหลายกิโลฯ
ดร.ทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้แถลงการณ์บริเวณริมถนนหน้าห้างสรรพสินค้ามาร์เก็ตวิลเลจ โดยมีข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะรวม 5 ข้อ

1. ขอให้รัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ตรึงราคาน้ำมันดีเซล (B7 หรือ B6) ราคาขายปลีก 25 บาท/ลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 วิกฤติสภาวะเศรษฐกิจ และวิกฤติอุทกภัย ภัยพิบัติต่างๆ จนกว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลาย
2. ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤติ โดยหารายได้จากส่วนอื่นๆ มาทดแทน
3. ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็นธรรม ยึดหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เอาเปรียบประชาชน และผู้บริโภคน้ำมันในระบบผูกขาด ตัดตอนจนเกินไป

4. ราคา ณ โรงกลั่น ต้องเท่ากับราคาสิงคโปร์ ที่ใช้เป็นฐานอ้างอิงน้ำมันสำเร็จรูป (ราคา ณ โรงกลั่นต้องเท่ากัน)
5. ในสถานการณ์วิกฤติต่างๆ ต้องลดค่าการตลาดลงกึ่งหนึ่ง เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันแพงเกินไป และเป็นการผลักภาระและสร้างกำไรทางธุรกิจที่ขาดหลักจริยธรรมและคุณธรรมทางธุรกิจกึ่งผูกขาด

ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการตามคำเรียกร้องได้ บรรดารถขนส่งก็จะหยุดวิ่งเพิ่มขึ้นอีกจาก 40 เปอร์เซ็นต์ เป็น 70 เปอร์เซ็นต์ ระบบการขนส่งก็จะได้รับผลกระทบมากขึ้น.