หนุ่มกู้ภัยใน จ.ราชบุรี เสียชีวิตหลังจากรับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ด้านครอบครัวและญาติเชื่อว่าเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีน แต่ไม่คิดเอาความ อยากให้ลูกเป็นรายสุดท้าย
จากกรณี นายประสงค์ บุญเขียน อายุ 40 ปี หรือ นายกานต์ จนท.อาสากู้ภัยของมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี เสียชีวิตช่วงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 18 ก.ย. 2564 หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส เข็มที่ 3 “แอสตราเซเนกา” ที่โรงยิมเนเซียม จ.ราชบุรี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายในห้องนอน บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ที่ 4 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ทำให้ครอบครัวติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต จนส่งศพไปชันสูตรผ่าพิสูจน์ศพที่ศูนย์นิติเวชโรงพยาบาลราชบุรี เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต เพราะเชื่อว่าจะเสียชีวิตเพราะการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่ 3 ดังที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ญาติพี่น้องพร้อมครอบครัว และ จนท.อาสาสมัครของมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี ได้ช่วยกันนำร่างของ นายประสงค์ บุญเขียน หรือ นายกานต์ ผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้าน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติพี่น้องพร้อมครอบครัว และ จนท.อาสากู้ภัยเพื่อนร่วมงาน ที่เดินทางมารับร่างของนายประสงค์ ขณะที่ร่างของผู้เสียชีวิตถึงที่บ้าน บรรดาญาติพี่น้องพร้อมครอบครัว ต่างพากันร้องไห้เสียใจ โดยเฉพาะ นางน้อย บุญเขียน วัย 64 ปี ผู้เป็นแม่ของผู้เสียชีวิตยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหันของลูกชาย
ด้าน นายประเสริฐ บุญเขียน อายุ 64 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายของตนจากไปอย่างกะทันหัน แต่หลังผลผ่าพิสูจน์ของลูกชายออกมาแล้วว่าเสียชีวิตจาก "ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว จนทำให้เสียชีวิต" และตนได้รับการยืนยันจาก นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี และนายแพทย์ธนะบุญ ประสานนาม รอง ผอ.รพ.ราชบุรี จะดูแลเยียวยาครอบครัวของตน ซึ่งตนและครอบครัวได้ปรึกษากันแล้วว่าอยากให้การจากไปของลูกชายเป็นไปด้วยความสงบ จะไม่ร้องเรียนพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายต่อไป แต่ตนและครอบครัวมั่นใจว่าลูกชายของตนเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่ 3 อย่างแน่นอน
...
ซึ่งตนอยากจะบอกลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายว่า ตนและแม่ พร้อมพี่น้อง ยังรักลูกเสมอ ถ้ามีโอกาสก็ขอให้ลูกชายได้เกิดมาเป็นลูกของตนและแม่เหมือนเดิม ซึ่งตนอยากจะฝากถึงรายการ "ไทยรัฐทีวี" ให้ช่วยติดตามหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ในการเข้ามาดูแลเยียวยาครอบครัวของตน ซึ่งตนเข้าใจว่าการฉีดวัคซีนมันไม่ใช่จะอันตรายกับทุกคน ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลว่ามีภูมิคุ้มกันร่างกายอย่างไร ครอบครัวตนไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้ทุกคนไปฉีดวัคซีน แต่ถ้าฉีดวัคซีนตัวเราต้องทำสุขภาพของเราให้แข็งแรงด้วย แต่ครอบครัวของตนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกมาแล้ว จะขอไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 อีก เนื่องจากยังหวาดกลัวและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นกับครอบครัวของตนอีก

ขณะที่ นางน้อย บุญเขียน อายุ 64 ปี แม่ผู้เสียชีวิตกล่าวทั้งน้ำตาว่ารู้สึกเสียใจมาก ลูกเป็นคนดี และเป็นคนแข็งแรงมาก ถึงตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าลูกจะมาตายเพราะการฉีดวัคซีน ก่อนหน้านี้ลูกแค่บอกว่าพรุ่งนี้จะไปฉีดวัคซีนเข็ม 3 ตอนเย็นวันที่ลูกชายไปฉีดวัคซีน ตนยังทำกุ้งอบวุ้นเส้นไว้ให้ลูกชายกินอยู่เลย และตนก็ลืมไปแล้วว่า ลูกชายไปฉีดวัคซีนมา จนกระทั่งเที่ยงคืนกว่า ตนลุกไปเข้าห้องน้ำและได้ยินลูกชายร้องว่า "คืนนี้กูตายแน่" จนตีสองลงมาดูลูกอีกครั้งก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว โดยที่ช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย
ด้าน น.ส.สาคร เข็มวัตร์ อายุ 46 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เธอไม่คิดเลยว่าน้องชายไปฉีดวัคซีนและจากไปโดยไม่ได้ร่ำลากับญาติพี่น้อง ซึ่งให้น้องชายเป็นโควิดเสียยังดีกว่า ยังมีโอกาสได้พูดคุย และยังมีโอกาสรักษาหายกลับมาอยู่กับครอบครัว ซึ่งครอบครัวของเธอไม่ใช่ไม่อยากฉีดวัคซีน แต่ถ้าฉีดแล้วเป็นแบบนี้ เธอและครอบครัวก็ไม่มีใครอยากไปฉีด เธอก็ขอให้กรณีของน้องชายของเธอเป็นกรณีสุดท้าย ในการฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต เพราะความสูญเสียมันเกิดขึ้นเยอะมากกับครอบครัวจริงๆ ซึ่งตั้งแต่น้องชายเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อคืน แม่ของเธอยังไม่ได้นอนและกินอะไรเลย ได้แต่ร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลา
ที่ผ่านมาน้องชายเป็นคนไม่ค่อยพูด และที่บ้านไม่มีใครรู้ว่าน้องชายไปฉีดวัคซีนมา มีเพียงแม่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งแม่ก็ลืมบอกทุกคนในบ้าน ถ้าน้องชายบอกตนสักนิดว่าไปฉีดวัคซีนมา คนในบ้านจะได้ช่วยกันดูแล อาจไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก่อนน้องชายจะเสียชีวิตก็ไม่มีลางบอกเหตุเลยว่าน้องชายจะจากไป ซึ่งเธอและครอบครัวมั่นใจว่า น้องชายเสียชีวิตเพราะจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่ 3
ขณะที่บรรยากาศการบำเพ็ญกุศลร่าง นายประสงค์ บุญเขียน หรือ นายกานต์ จนท.อาสากู้ภัยของมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี คืนแรกมี นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี เป็นประธานบำเพ็ญกุศลศพ โดยทางญาติจะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาเป็นเวลา 5 วัน และจะประกอบพิธีฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 23 ก.ย. 64 เวลา 16.00 น. ณ วัดอรัญญิกกาวาส ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี