ชาวบ้านหาปลาริมฝั่งน้ำบางปะกง สามารถจับจระเข้ในแม่น้ำบางปะกง ได้อีก 1 ตัว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับไปดำเนินการตามขั้นตอน เชื่อยังมีหลงเหลืออยู่อีก คนหาปลาต่างเจอจระเข้ว่ายอยู่ในน้ำหลายขนาด
...
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 17 กันยายน 2564 หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้รับการประสานจาก นายโต้ง อายุ 37 ปี ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ว่า ตนเองสามารถจับจระเข้ได้ ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาดำเนินการรับตัวยังท่าน้ำศาลเจ้าอาม่า ซอยเทพคุณกร 5 ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบจระเข้ขนาดใหญ่ ถูกมัดมือมัดเท้า นอนอยู่บริเวณท่าน้ำ เจ้าหน้าที่จึงนำจระเข้ขึ้นสไลด์บอร์ด ก่อนวัดความยาวของจระเข้ตัวนี้ ยาวถึง 2.64 เมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ก่อนนำขึ้นรถพาจระเข้ไปยังหน่วยกู้ภัย
นายโต้ง เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพหากุ้งหาปลาอยู่ในแม่น้ำบางปะกง หลังทราบข่าวว่ามีจระเข้หลุดออกมาว่ายน้ำในแม่น้ำบางปะกง จึงตั้งใจล่องเรือออกหาตั้งแต่ช่วงกลางดึก จนกระทั่งเวลาประมาณตี 3 ตนเองสาดไฟฉายไปเห็นตาจระเข้ ที่ลอยคอยู่ริมตลิ่ง บริเวณป่าจาก ตรงข้ามตลาดบ้านใหม่ ตนจึงดับเครื่องแล้วพายเรือเข้าไปใกล้ๆ ใช้วิธีของชาวบ้านโดยทำบ่วงคล้อง และนำอวนคลุมตัว เมื่อจระเข้ติดบ่วงก็พยายามดิ้น จนมือเท้าของจระเข้พันเข้าที่อวน จนไม่สามารถขยับไปไหนได้ จึงได้ลากจระเข้จากคุ้งน้ำที่พบ มายังท่าศาลเจ้าอาม่า ระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร เพื่อมาขึ้นฝั่งที่ท่านี้ เพราะเป็นบ้านของตน ก่อนจะตามเพื่อนๆ มาช่วยกันนำจระเข้ขึ้นจากน้ำและติดต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยดำเนินการ
...
“ตนเองคิดว่าในแม่น้ำบางปะกง ยังมีจระเข้หลงเหลืออยู่อีก นอกจากตัวนี้ เพราะเพื่อนชาวบ้านหาปลา ต่างเจอจระเข้ว่ายอยู่ในน้ำหลายขนาด”
นายชำนาญ ฉัตรวิเชียร รองหัวหน้าปฏิบัติการหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า จระเข้ตัวนี้จะนำไปพักไว้ที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เพื่อรอเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงจังหวัดมารับตัว ตามขั้นตอน ก่อนนำไปยังศูนย์เพาะเลี้ยงน้ำจืดภาคตะวันออกต่อไป ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น จระเข้ตัวนี้ไม่ใช่ตัวที่เจ้าหน้าที่ไล่ให้กลับเข้ารังเมื่อวานนี้ เพราะขนาดโหนกศีรษะและขนาดลำตัวจะเล็กกว่าจระเข้ตัวเมื่อวานนี้ที่เจ้าหน้าที่พยายามไล่ให้ติดกับดัก อย่างไรก็ตาม หากชาวบ้านยังคงพบเห็นจระเข้ลอยน้ำอยู่ในบริเวณใด สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ เพื่อจะได้ตรวจสอบ และติดตามจับจระเข้ตัวที่เหลือ