กรณีตายายวัย 83 ปี นอนกอดกันเสียชีวิตในบ้านพักที่ จ.ปทุมธานี ล่าสุดญาติผู้ตายมาเก็บกวาดบ้าน นำฟูกนอนของใช้ไปเผาทำลายเพื่อฆ่าเชื้อโรค เพราะไม่มั่นใจติดโควิดหรือไม่ ต้องรอผลตรวจพรุ่งนี้ (4 ส.ค.)
จากกรณี นายเอิบ จำเริญใจ อายุ 83 ปี และ นางลำพวน จำเริญใจ อายุ 83 ปี สองสามีภรรยานอนเสียชีวิตภายในที่นอน สภาพศพถูกคลุมด้วยผ้าห่ม ภายในบ้านพักไม่มีเลขที่ในซอยเจริญสุข หมู่ที่ 6 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สร้างความสะเทือนใจให้กับญาติพี่น้อง เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น. ของเมื่อวานที่ผานมา (2 ส.ค.) นั้น
ล่าสุดวันที่ 3 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติของ นายเอิบ จำเริญใจ อายุ 83 ปี และ นางลำพวน จำเริญใจ อายุ 83 ปี สองสามีภรรยา กำลังย้ายข้าวของภายในบ้านที่คุณตากับคุณยายใช้เป็นประจำ โดยเฉพาะที่นอน ทางญาติจะดำเนินการนำไปเผาบริเวณด้านหลังบ้าน หลังจากไม่แน่ใจว่าคุณตากับคุณยายนั้นติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่

นางกลอยใจ ไกลโพชน์ อายุ 39 ปี เป็นหลาน ได้กล่าวว่า จากการเสียชีวิตของคุณตากับคุณยายนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่มารับศพทั้งสองคนไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต ตั้งแต่เมื่อคืน เวลา 21.30.น. ซึ่งผลการชันสูตรพลิกศพจะรู้ผลในวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งไม่รู้ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ และหากติดเชื้อทางญาติก็จะนำไปเผาที่วัดที่เขารับเผา แต่หากว่าไม่ติดก็จะนำมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบางขันธ์
...
หลานชายของตายายทั้ง 2 กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางญาติรู้สึกเสียใจมากเนื่องจากเขาเป็นคนแก่ทั้งคู่ และไม่ได้ออกไปไหนเลย จริงๆ แล้วโรคนี้มันไม่น่าจะเข้ามาหาคนที่อยู่แต่ภายในบ้านและไม่ได้ออกไปไหนเลย รู้สึกหดหู่ใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะแกอยู่ด้วยกันมาจนลูกๆ ของแก่อายุปาเข้าไปก็ 50 กว่าปีแล้ว ซึ่งคุณตากับคุณยายนั้นผูกพันกันมานาน พอคุณยายเสียทางคุณตาก็มาตรอมใจตายไปในทันที แกพูดไม่ได้แต่เรารู้สึกได้ เพราะน้ำตาแกไหลในตอนนั้น
ด้าน นางละเอียด จำเริญใจ อายุ 72 ปี น้องสาวของคุณตาเอิบ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะคุณตาก็เป็นพี่ชาย และคุณยายก็เป็นพี่สะใภ้ คุณตากับคุณยายนั้นอยู่กับลูกกับหลานภายในบ้านทั้ง 4 คน โดยตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าทั้งคุณตากับคุณยายเป็นอะไรเสียชีวิต แต่ในขณะนี้ตนเองก็เป็นไข้มาหลายวันแล้ว ก็ไม่รู้โรคดังกล่าวนี้ทำไมมันเยอะขนาดนี้ ลูกชายที่ทำงานคนเดียวตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้ว เพราะที่ทำงานเขาปิดเพราะติดโควิด-19 กันหมด.