สุดสลด พยาบาลสาวดิ่งตึกชั้น 4 รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ดับคาชุดพีพีอี เผยปมเหตุจากเครียดเรื่องงานดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่มารักษาตัวจนแน่นโรงพยาบาล แถมมีภาวะป่วยซึมเศร้าหลังเพิ่งคลอดลูกได้ 3 เดือน กลัวตัวเองจะติดเชื้อ ยังกลับไปหาลูกที่บ้านไม่ได้ เพราะคนในครอบครัวจะเสี่ยงรับเชื้อไปด้วย ทำเรื่องขอย้ายแผนกรอคำสั่งออกเดือนหน้าก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเดินวนเวียนอยู่ในห้องทำงานนานร่วม 10 นาที สุดท้ายปีนหน้าต่างกระโดดลงมา โรงพยาบาลแถลงการณ์เสียใจสุดซึ้ง ยันผู้ตายไม่ได้ติดเชื้อโควิดวอนเคารพสิทธิครอบครัวผู้สูญเสีย

เหตุสลดใจ พยาบาลสาวเครียดจัดกระโดดตึกโรงพยาบาลฆ่าตัวตายรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 19 ก.ค. ร.ต.ท.พรศักดิ์ ดีดอม รอง สว. (สอบสวน) สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งเหตุกระโดดตึกเสียชีวิตภายในโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หมู่ 2 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชัชปัณฑการณ์ คล้ายคลึง รองผบก.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิขัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว นำกำลังตำรวจไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารโรงพยาบาลสูง 9 ชั้น บริเวณข้างอาคารพบกองเลือดที่พื้น ส่วนผู้เสียชีวิตถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว ทราบชื่อ นางปวีณา สุกรีฑา อายุ 34 ปี พยาบาลวิชาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ชั้น 4 ของโรงพยาบาล บ้านอยู่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี สภาพศพสวมชุดพีพีอีป้องกันเชื้อ ศีรษะแตก แขนขาหัก สอบถามแม่บ้านของโรงพยาบาลทราบว่าได้ยินเสียงดังตุ้บเหมือนของหนักตกกระแทกพื้นบริเวณข้างอาคารโรงพยาบาลรีบวิ่งไปดูพบร่างผู้ตายนอนจมกองเลือดหายใจรวยรินเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยกันพยายามปั๊มหัวใจยื้อชีวิตประมาณ 5 นาที แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา

...

พ.ต.อ.ชัชปัณฑการณ์ คล้ายคลึง รองผบก.ภ.จ.นครปฐม เผยว่า จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่และเพื่อนพยาบาลไม่มีใครทราบสาเหตุการกระโดดตึงฆ่าตัวตาย ก่อนหน้านี้เห็นผู้ตายเดินตรวจดูแลคนไข้อยู่สม่ำเสมอเท่าที่พูดคุยไม่เห็นมีอาการเครียด เพียงแต่บ่นว่าเหนื่อยมากเพราะมีผู้ป่วยโควิดที่เข้ามารักษาตัวมากขึ้นทุกวันจนล้นห้อง ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายเดินวนเวียนอยู่ที่ระเบียงอาคารหลายรอบแต่ไม่มีคนเห็นตอนกระโดดลงไป เพราะเป็นช่วงเช้ามืดพยาบาลส่วนใหญ่ที่เข้าเวรอยู่ในอาการเหน็ดเหนื่อยจะพักสายตากัน ทุกคนต่างตกใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้

รองอบก.ภ.จ.นครปฐม เผยต่อไปว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเชือกมากั้นบริเวณที่เกิดเหตุพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบเพื่อป้องกันการเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด เนื่องจาก อ.สามพราน มีคลัสเตอร์โรงงานหลายแห่งเป็นพื้นที่การแพร่ระบดของโควิดมากที่สุดใน จ.นครปฐม ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายจะต้องสอบสวนญาติว่ามาจากเรื่องอะไรอาจเกิดจากปัญหาครอบครัวหรือเกิดจากความเครียดและเหนื่อยจากการดูแลผู้ป่วยโควิดก็เป็นได้

ด้าน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว เผยว่า จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานและสามีผู้ตาย ทราบว่าผู้ตายมีอาการเครียดจากการทำงานดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด กลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อไปด้วยได้ทำเรื่องขอย้ายไปแผนกอื่นแล้ว คำสั่งจะมีผลในเดือน ส.ค.นี้ ประกอบกับผู้ตายอยู่ในภาวะอาการป่วยโรคซึมเศร้า หลังจากเพิ่งคลอดลูกได้ 3 เดือน ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านไปหาลูกที่ จ.ราชบุรีได้ เพราะกลัวลูกและคนในครอบครัวจะเสี่ยงติดเชื้อไปด้วย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ตายกระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้น 4 ที่ทำงานอยู่ พบรองเท้าสีขาวของผู้ตายถอดวางที่พื้น ก่อนหน้านั้นผู้ตายมีอาการเครียด เดินไปมาภายในห้องทำงานนานร่วม 10 นาที จากนั้นเดินออกจากห้องไปปีนหน้าต่างกระโดดลงไปจนเสียชีวิต นำศพส่งภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้ง

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน รพ.เมตตาประชารักษ์ ออกหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของบุคลากรผู้เสียชีวิต ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงานไม่ว่าจะเป็นในสถานการณ์ปกติหรือในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้ป่วยจากโรคระบาดโควิด-19 เป็นจำนวนมาก โรงพยาบาลรู้สึกซาบซึ้งและขอขอบคุณในความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ และมีเมตตาต่อผู้ป่วยของท่านผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นที่รักของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยความเคารพต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด ขอความร่วมมือจากทุกท่านโปรดให้เกียรติและเคารพสิทธิของผู้เสียชีวิตและครอบครัวในการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความระมัดระวัง

ทั้งนี้ โรงพยาบาลได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมดูแลครอบครัวของผู้สูญเสียอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ แม้ผู้บริหารและบุคลากรในโรงพยาบาลจะรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของบุคลากรครั้งนี้เป็นอย่างมาก แต่ขอยืนยันว่าจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ต่อไปทั้งในด้านการรักษาประชาชนทั่วไป ตลอดจนประชาชนที่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ควบคู่ไปกับการดูแลบุคลากรของโรงพยาบาลอย่างดีที่สุดเช่นกัน ตามเจตนารมณ์ในการทำดีที่สุด เพื่อทุกชีวิต เพราะทุกลมหายใจที่ได้คืนมา มีค่ามากกว่าคำชื่นชม ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีพยาบาล รพ.เมตตาประชารักษ์ ฆ่าตัวตายโดยมีการระบุสาเหตุอาจมาจากความเครียดในการดูแลผู้ป่วยโควิดจำนวนมาก ว่า การฆ่าตัวตายส่วนใหญ่มีหลายปัจจัยร่วม มีหลายเรื่องที่รบกวนจิตใจ เพราะคนคนหนึ่งกว่าจะตัดสินทำอะไรลงไปจะมีความท่วมท้นของความรู้สึกที่ผสมผสานกัน กรณีพยาบาลคนดังกล่าวขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด เป็นเพียงรายงานจากข่าว ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อป้องกันสำหรับคนทำงานทางด้านสาธารณสุขให้มากขึ้นไปอีก

...

อธิบดีกรมสุขภาพจิตเผยต่อไปว่า จากการ ติดตามบุคลากรสาธารณสุขช่วงการระบาดของโควิด-19 พบว่ามีความเครียดสูง มีความเหนื่อยล้าค่อนข้างสูงมาจาก 2 เรื่อง คือ 1.รู้สึกเสี่ยงต่อการติดเชื้อเนื่องจากภาระหน้าที่ที่ต้องทำงานกับผู้ป่วย และการดูแลผู้ป่วยโรคอื่นๆก็เสี่ยงที่จะติดเชื้อเช่นกัน และ 2.ความไม่สบายใจเรื่องอื่นๆ เพราะบุคลากรสาธารณสุขก็เหมือนคนอื่นที่มีความเป็นห่วงหลายเรื่อง ทั้งครอบครัว คนใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม การดูแลสภาพจิตใจในหน่วยต่างๆ ต้องมีการหมุนเวียนช่วงเวลางาน และช่วงเวลาดูแลสภาพจิตใจ ให้กำลังใจกัน และกันผ่านทางช่องทางการสื่อสาร มีการปรึกษาหารือถามสารทุกข์สุกดิบกัน คุยในเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากงาน ตอนนี้รับรู้เรื่องการทำงานหนักของทุกคน แต่ภาระงานยังเดินหน้าต่อไปจึงต้องดูแลกันและกันให้มีการผ่อนคลายลง