กรณีคลินิกพยาบาลและการผดุงครรภ์ ที่กบินทร์บุรีถูกถ่ายคลิปแฉหลอกลูกค้าไปฉีดวัคซีนโมเดอร์นา เข็มละ 1,500 บาท ทั้งที่ความจริงยังไม่มีการนำเข้ามา ล่าสุดเจ้าของคลินิกยังปากแข็ง อ้างแค่ฉีดยาแก้ไข้ แต่ไม่รอดเพราะมีผู้เสียรายอื่นยืนยันจ่ายเงินไปแล้ว 4,500 พร้อมเข้าแจ้งความ 
 

จากกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า มีคลินิกแห่งหนึ่ง ที่ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี อ้างว่ามีวัคซีน ยี่ห้อโมเดอร์นา ในราคาเข็มละ 1,500 บาท ผู้สนใจต้องโอนเงินเข้าในบัญชีก่อน แล้วจึงเข้าไปรับวัคซีนได้ มีเพื่อนบ้านสนใจติดต่อ พร้อมโอนเงินเข้าบัญชีไป 6,000 บาท เพื่อพาครอบครัว 4 คน มี พ่อ แม่ ลูกชาย 2 คน อายุ 5 ขวบ และ 10 ขวบ และเดินทางไปฉีดวัคซีนที่คลินิก เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนว่าจะถูกหลอก จึงตัดสินใจขับรถตามไปดู พบว่า คลินิกดังกล่าว คือ คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์กุหลาบ พร้อมได้แอบบันทึกภาพวิดีโอไว้

ล่าสุด ช่วงบ่ายวันที่ 13 ก.ค. 64 พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.วังตะเคียน และนายนัฐพงษ์ ขันธรักษ์ เภสัชชำนาญการ สสจ.ปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่คลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์กุหลาบ เลขที่ 59 หมู่ 18 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี พบกับนางกุหลาบ แหยมนก เจ้าของ นั่งอยู่ภายในคลินิก ซึ่งเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วย มียาไว้จำหน่าย มีห้องตรวจโรค และบริเวณหลังบ้าน พบถุงขยะติดเชื้อ 3-4 ถุง ภายในถุงขยะพบมีเข็มฉีดยาที่ใช้แล้ว และหลอดยาฉีดที่ใช้แล้ว ทิ้งอยู่ในถุงขยะจำนวนมาก ยังพบหลอดยาคุมที่ใช้ฉีดแล้วทิ้งอยู่ในถุงขยะด้วย เบื้องต้น ได้รับแจ้งจากสาธารณสุขประจำอำเภอว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านที่ได้รับวัคซีนที่อ้างว่าเป็นวัคซีนโมเดอร์นาไปแล้ว 1 ราย ขณะนี้เตรียมให้เข้าปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังมีอีก 1 ราย ที่มาทำการรักษาที่คลินิกแห่งนี้ แล้วโดนเชิญชวนให้ฉีด แต่ยังไม่ได้ฉีด

...

จากการสอบถาม นางกุหลาบ แหยมนก เจ้าของคลินิก กล่าวว่า ที่เขาโพสต์ในเฟซบุ๊กกันนั้น น่าจะมาถามตนบ้างว่าเหตุการณ์เป็นยังไง เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 12 ก.ค. 64 เวลาใกล้ๆ เที่ยง ที่มีคลิปออกไปนั้นคือเขามาฉีดยาแก้ไข้ เราเป็นคนฉีดให้เขาเอง แล้ววันนั้นเขาไม่ได้ทานข้าวเช้ามา เขาทานกาแฟสดมา พอหลังจากฉีดยาแก้ไข้เสร็จเขาก็นั่งหน้าเหลืองๆ เขาไม่ถึงกับสิ้นสติ เราก็เอายาดมให้ดมสักพักเขาก็หายแล้วขับรถกลับบ้านได้ คนที่มาฉีดยาเเป็นลูกหลานญาติห่างๆ คนที่เขามาฉีดเขาป่วยเป็นไข้หวัด ปวดท้อง ส่วนผู้หญิง 2 คนที่อยู่ในคลิปด้วยนั้นเขาเป็นคนไข้ เรื่องของวัคซีนโมเดอร์นานั้นตนไม่รู้เรื่อง วันนั้นตนฉีดยาแก้ไข้ให้กับคนไข้ไป

ขณะที่ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.วังตะเคียน กล่าวว่า ที่มีข่าวในโซเชียลว่ามีการลักลอบฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ สสจ. ได้ลงพื้นที่เข้ามาตรวจในเบื้องต้น สำหรับวัคซีนโมเดอร์นา น่าจะไม่ใช่ น่าจะไม่มีจริง น่าจะเป็นการหลอกลวงมากกว่า ในวันนี้ที่ตรวจสอบ ได้พบการกระทำความผิดอีกส่วนหนึ่งเกี่ยวกับสถานพยาบาล ซึ่งให้ทาง สสจ.ดำเนินการไป ส่วนการสอบปากคำทั้ง 2 ราย นั้นยังไม่ให้การ ที่เป็นประโยชน์มากนัก

"อยากจะฝากบอกไปทางสื่อมวลชนว่า สำหรับผู้ที่เคยถูกหลอก หรือว่าเคยมารับบริการที่นี่แล้วมีพยานหลักฐานให้มาแจ้งความดำเนินคดีได้ที่ สภ.วังตะเคียน ส่วนในคดีเรื่องการฉ้อโกงต้องมีผู้เสียหายถึงจะดำเนินคดีได้ ในส่วนของตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานบางส่วนเอาไว้แล้ว"

ทางด้าน นายนัฐพงษ์ ขันธรักษ์ เภสัชชำนาญการ สสจ.ปราจีนบุรี ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ผวจ.ปราจีนบุรี ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ กล่าวว่า วันนี้ได้พบการกระทำความผิดอยู่ 2 กรณีหลักๆ อันดับแรก คือการเปิดสถานพยาบาลผิดประเภท จากการให้การของคุณป้าว่ามีการฉีดยา ซึ่งคลินิกพยาบาลและผดุงครรภ์เขาห้ามฉีดยา ถือว่าเป็นการเปิดให้บริการผิดประเภท อีกอย่างที่เจอคือมียาอันตราย เกี่ยวกับการฉีดและการจำหน่าย ซึ่งตามหลักคลินิกพยาบาลและผดุงครรภ์ ไม่สามารถจำหน่ายยาอันตรายได้ ถือว่าเป็นการจำหน่ายยาอันตรายไม่มีใบอนุญาต ดังนั้น ตอนนี้จึงมี 2 ข้อหาหลักๆ คือ 1. เปิดสถานพยาบาลผิดประเภท 2. จำหน่ายยาอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการสั่งปิดคลินิกจะเสนอผู้บริหารพิจารณา เพื่อดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็น ได้มีนายสมประสงค์ โอนอ่อน อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 18 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี หลังจากทราบข่าวออกตามสื่อ ได้เดินทางไปที่คลินิกที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า ได้จองฉีดวัคซีนไว้ ที่คลินิกนี้ แล้วได้ยินข่าวว่า มีการฉีดวัคซีนปลอมเลยมาดูว่ามันจริงไหม ซึ่งตนได้โอนเงินจองมาแล้วเป็นจำนวน 4,500 บาท จำนวน 3 คน นัดฉีดหลังวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ วันนี้ที่มาเพราะได้ยินข่าวว่าเอาวัคซีนปลอมมาฉีดให้กับประชาชน ก็เลยมาดูว่าเป็นเช่นไร เมื่อทราบข้อเท็จจริงแล้ว ก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของคลินิก ที่ สภ.วังตะเคียน ต่อไป.