กว่า 15 ชม. เหตุไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว เจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์โปรยโฟมต่อเนื่อง หลังไฟไหม้ถังเก็บสารเคมี แต่ยังคุมเพลิงไม่ได้ ควันดำพวยพุ่ง
กรณีเกิดเหตุระเบิดภายในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 87 ซ.กิ่งแก้ว 21 หมู่ที่ 15 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก และเกิดเพลิงไหม้ขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 03.00 น. วันนี้ (5 ก.ค.) สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน เพลิงยังไม่สงบ ทั้งนี้ หากไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า
โรงงานดังกล่าวเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. ก่อนท่ีจะเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดส่งผลให้โครงสร้างของโรงงานที่อยู่บริเวณใกล้เคียง รวมถึงบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งเข้าไปยังโรงงานเพื่อระงับเหตุ
...
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง ได้ฉีดน้ำระงับเพลิง ก่อนเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่อยู่ภายในอาคารโดยรอบที่เกิดเหตุ พร้อมนำส่งโรงพยาบาล
กระทั่งช่วงสาย มีการประเมินเหตุการณ์จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก่อนมีการสั่งอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณรัศมี 5 กิโลเมตร เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้สารเคมีที่เกิดขึ้นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมกำลังทั้งจากหน่วยงานของภาครัฐและอาสาสมัครเข้าฉีดน้ำระงับเหตุ
นอกจากนี้ได้มีการจัดเตรียม ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน เขตประเวศ ให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว หากมีการอพยพประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม โดยใช้อาคารศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หนองบอน สำนักการระบายน้ำ ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กีฬาบึงหนองบอน เขตประเวศ ใช้พื้นที่ชั้น 1 และชั้น 2 ของอาคารเป็นที่นอน สามารถรองรับประชาชนได้จำนวน 400 คน แบ่งเป็นชายหญิง หรือแยกเป็นครอบครัว
โดยให้สำนักพัฒนาสังคมนำรถครัวสนามเคลื่อนที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 คัน เตรียมประกอบอาหารรองรับประชาชนที่อพยพเคลื่อนย้าย ตั้งแต่มื้อเย็นวันนี้เป็นต้นไป โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อกรุงเทพมหานครเพื่อรับการดูแลในเบื้องต้น ได้ที่สำนักงานเขตประเวศ โทร. 0-2328-7149 ต่อ 6383
จากนั้นช่วงบ่ายเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อสารเคมีได้รั่วขึ้นมาอีก พร้อมกับเกิดเปลวไฟ พุ่งมาทางเจ้าหน้าที่อาสาดับเพลิงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพยายามฉีดน้ำระงับเหตุเพลิงไหม้อยู่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 นาย และบาดเจ็บสาหัสถูกไฟคลอกอีก 3 นาย เพื่อนอาสาช่วยนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนแล้ว
ต่อมา เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ซึ่งกองทัพบก (ทบ.) ร่วมกับ ปภ. ส่งเข้าสนับสนุนภารกิจระงับเหตุไฟไหม้ ได้ขึ้นบินเที่ยวแรกเพื่อโปรยทิ้งโฟมดับเพลิงบริเวณจุดที่ตั้งโรงงานพลาสติก โดยจะวางแผนและประเมินสถานการณ์การขึ้นบินเป็นระยะ ซึ่งนักบินขอปรับแผนเป็นการเทโฟม 300 ลิตร ผสมน้ำ 3,000 ลิตร โปรยโฟมแบบเต็มพื้นที่ พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานภาคพื้นดินเข้าฉีดพ่นโฟมดับเพลิงเสริมอีกทางหนึ่ง
...
ขณะที่ ทางกรุงเทพมหานคร ได้เร่งย้าย 3 แคมป์คนงาน พื้นที่เขตประเวศ เฉพาะแขวงดอกไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่รัศมี 5 กม. จากโรงงานกิ่งแก้วที่ระเบิด ได้แก่ แคมป์หมู่บ้านแฮปปี้แลนด์, แคมป์ jws และแคมป์หมู่บ้านพฤกษา ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
ซึ่งช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้จัดการโรงงาน บริษัท หมิงตี้ เคมีคอลฯ ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ พร้อมระบุว่า บริษัทฯ มีการเก็บสารเคมีที่เป็นวัตถุดิบใช้สำหรับผลิตเม็ดโฟมเม็ดพลาสติก ดังนี้ เพนเทน ประมาณ 60-70 ตัน, สไตรีน โมโนเมอร์ ประมาณ 1,600 ตัน และน้ำ ประมาณ 300 ตัน
ขณะที่ สำนักงาน คปภ.จังหวัดสมุทรปราการ ได้ตรวจสอบข้อมูลการรับประกันภัยของบริษัทดังกล่าวแล้วพบว่า ได้จัดทำประกันภัยไว้กับบริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ดังนี้ ทุนประกันภัยกว่า 400 ล้านบาท
เบื้องต้นสำนักงาน คปภ.จังหวัดสมุทรปราการ ได้ประสานบริษัทประกันภัยเพื่อตรวจสอบความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว
...
ขณะที่ ปภ.รายงานความเสียหายเบื้องต้น พบบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ประมาณ 70 หลัง, ยานยนต์เสียหายประมาณ 15 คัน, มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 29 ราย และเสียชีวิต 1 ราย โดยมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ที่ตึกมูลนิธิร่วมกตัญญู ถนนกิ่งแก้ว กม.12 ห่างจากจุดเกิดเหตุ 4 กม. โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. พบว่าเฮลิคอปเตอร์ก็ยังโปรยโฟมเพื่อดับไฟอย่างต่อเนื่อง แต่แม้จะโปรยโฟมก็ยังพบว่ากลุ่มควันที่พวยพุ่งขึ้นมายังเป็นสีดำเข้ม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องการรถส่องสว่างเพื่อเตรียมความพร้อมทำงานต่อเนื่องในช่วงค่ำคืนนี้
เมื่อเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้ถังดับเพลิงเคมีสูตรน้ำ Water mist FireAde 2000 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในวงการดับเพลิง และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเข้าระงับเหตุในภาคพื้นดินช่วยอีกทางหนึ่ง โดยนักดับเพลิงที่อยู่ในพื้นที่ทุกคนต้องอยู่ในชุดป้องกันเต็มที่เพื่อความปลอดภัย รวมถึงมีการฉีดน้ำร่วมด้วยเพื่อลดความร้อนในพื้นที่.
...