ปัจจุบันการนำแนวคิดเกษตรอัจฉริยะมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตทำการเกษตร นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการผลิต ทำให้เกษตรกรมีการจัดการแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา ต้นทุน และมีรายได้เพิ่มขึ้น

จากตัวอย่างของ Smart Farmer นายพิชิต เกียรติสมพร เศรษฐกิจการเกษตรอาสา (ศกอ.) ประธานกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านสวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ที่นำเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิตข้าวปทุมธานี 1

จากเดิมปลูกข้าวโดยใช้สารเคมีเป็นหลัก ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูง ได้กำไรน้อย จึงศึกษาวิธีและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าวและไม่มีโรคแมลงศัตรูข้าวมารบกวนจากสถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติสุพรรณบุรี เมื่อปี 2562

และได้ลงมือทำแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะข้าวขึ้นที่ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลสวนแตง บนเนื้อที่นาต้นแบบ 11 ไร่ นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ตลอดกระบวนการผลิต อาทิ เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ เครื่องกำจัดวัชพืชที่มีความแม่นยำสูง เครื่องตรวจวัดความต้องการธาตุอาหารพืช เครื่องให้ปุ๋ยอัตโนมัติตามค่าวิเคราะห์ดิน ระบบควบคุมการให้น้ำอัจฉริยะ ติดตั้ง Sensor ตรวจสภาพต้นข้าว กล้องดักจับแมลง การใช้อากาศยานไร้คนขับในการสำรวจการเจริญเติบโตของพืชร่วมกับการฉีดพ่นสารชีวภัณฑ์ การใช้ Sensor ตรวจวัดสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแปลงเรียนรู้เพื่อนำไปประมวลผลผ่านระบบ Internet ทำให้ลดแรงงานในการดำเนินงาน ลดระยะเวลา ลดปริมาณการใช้น้ำ และลดปริมาณการใช้สารเคมี

หลังจากเข้าร่วมโครงการ พบว่า ปีเพาะปลูก 2563/64 มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยไร่ละ 4,985 บาท ได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 870 กก. ผลตอบแทนเฉลี่ยไร่ละ 8,976 บาท หักต้นทุนแล้วมีกำไรเฉลี่ยไร่ละ 3,991 บาท

...

ผลของการเข้าร่วมโครงการและนำเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตข้าว สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ร้อยละ 13 เพิ่มผลผลิตได้ร้อยละ 19 และได้กำไรเพิ่มร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับก่อนเข้าร่วมโครงการ.

สะ-เล-เต