ข้อมูลกลุ่มผู้กระทำความผิดมักถูกเก็บไว้เฉพาะตัวของใครของมัน พอถูกย้ายจะนำเอาติดตัวไปด้วย ผู้ที่มาใหม่ต้องมาเริ่มนับใหม่ ขาดความต่อเนื่อง
พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี มองภาพรวมแล้วนึกถึงสมัยตัวเองดำรงตำแหน่ง ผกก.สส.บก.น.4 คิดโครงการนำเอาฝ่ายสืบสวนทุกโรงพักในพื้นที่ บก.น.4 ไปฝึกอบรมการใช้โปรแกรมหาความเชื่อมโยง Link chart ตลอดจนวิธีการนำเอาข้อมูลทางเทคนิคต่างๆจากการขยายผลผู้ต้องหาคดียาเสพติด
นำลง “ถังข้อมูลใหญ่” ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อหาเครือข่ายขบวนการยานรกทุกระดับ
ทว่ายังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันถูกคำสั่งโยกย้ายก่อน โครงการถึงไม่เห็นเป็นรูปธรรม
ปัจจุบันเจ้าตัวมีโอกาสรื้อฟื้นความตั้งใจในการเพิ่มกลยุทธ์และเขี้ยวเล็บให้ “นักสืบภูธร” เมืองเพชรบุรีทุกนาย ลงทุนใช้งบ ประมาณ 3 วัน ฝึกฝนฝ่ายสืบสวนทุกสถานีเรียนรู้การใช้โปรแกรมหาความเชื่อมโยง การใช้แอปพลิเคชันต่างๆมาเพื่อดึงข้อมูลจากการขยายผลผู้ต้องหา
ตั้งแต่ผู้เสพ ผู้ขายรายย่อย ไปจนถึงรายใหญ่
นอกจากนี้ยังฝึกการเก็บกู้ข้อมูลกล้องวงจรปิด เทคนิคการใช้ประโยชน์จากกล้อง ไปจนถึงการเดินเชิงเทคนิคจากข้อมูลการสื่อสารที่ได้ มีทีมงานวิทยากรจาก กก.สส.บก.น.6 ที่มา “เปิดใจ” แชร์ข้อมูลกันเต็มที่เพื่อมุ่งยกระดับงานสืบสวนภูธรให้เทียบชั้นนครบาล
ภายหลังอบรมวิทยายุทธ์ได้ 1 เดือน ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี นัดนักสืบทุกสถานีขอตรวจการบ้าน ประเมินผลพบว่า ส่วนใหญ่เข้าใจ ทำได้ แต่ยังขาดประสบการณ์เชิงปฏิบัติ
นำไปสู่การเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการกันอีก 1 วันเต็ม เริ่มต้นได้ตัวผู้ต้องหามาแล้วต้องทำอย่างไร เป็นขั้นตอนจนสามารถ นำข้อมูลทั้งหมดลง “ถังของสถานี” ทุกสัปดาห์สืบจังหวัดจะนำข้อมูลโรงพักมาลง “ถังใหญ่” ของจังหวัด วิเคราะห์แตกข้อมูลขยายแขนงต่อไป
ไม่กี่เดือนเชื่อว่าจะสามารถเห็นโครงข่ายยาเสพติดทั้งจังหวัด
ทำงานกันแบบ “มืออาชีพ” เพิ่มประสิทธิภาพนักสืบภูธร.
สหบาท