สภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย แถลงการณ์ 7 ข้อถึงนายกรัฐมนตรี รวมทั้งขอให้เร่งรัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับลูกจ้างผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 ที่สภาองค์การนายจ้าง พัฒนาแรงงาน แห่งประเทศไทย ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่ประเทศไทย (สพท.) และประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) พร้อมเครื่อข่ายสมาชิก ตั้งโต๊ะแถลงการณ์ เนื่องในโอกาส วันแรงงานแห่งชาติ เป็นวันที่ระลึกถึงผู้ใช้แรงงานทั้งในระดับสากล รวมทั้งในประเทศไทย พร้อมกับเรียกร้องผ่านทางสื่อออนไลน์ ไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทางรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน ทุกภาคส่วน ขอให้มีนโยบายเพื่อส่งเสริมสนับสนุนด้านแรงงาน เพื่อสร้างความมั่นคงในการทำงานของผู้ใช้แรงงาน และเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ 7 ข้อ ประกอบด้วย

ข้อ 1. ขอให้รัฐบาลจัดหาวัคซีน และเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ให้เป็นการเฉพาะให้เร็วขึ้นให้ครอบคลุมผู้ประกันตนถ้วนหน้า

ข้อ 2.ขอให้รัฐบาลตรากฎหมาย "จัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้กับลูกจ้าง " ในกรณีที่สถานประกอบกิจการ ปิดกิจการ หลีกเลี่ยงการเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย เพื่อเป็นหลักประกันความมั่งคงในการทำงาน

ข้อ 3. ขอให้รัฐบาลปฏิรูประบบประกันสังคมโดยแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ดังนี้ 3.1) ผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 สามารถเลือกรับบำเหน็จหรือบำนาญได้ และปรับฐานเงินรับบำนาญชราภาพไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท/เดือน 3.2) ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่รับบำนาญชราภาพแล้ว สามารถสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 และให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ทดแทน 3 กรณี ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล ทุพพลภาพและค่าทำศพ

...

ข้อ 4. ขอให้รัฐบาลขยายสิทธิประโยชน์ในกองทุนเงินทดแทน กรณีหากลูกจ้างประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต เนื่องจากการทำงานให้ได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน โดยไม่จำกัดวงเงินค่ารักษาพยาบาลให้จนสิ้นสุดการรักษา

ข้อ 5. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาวะคนทำงานในสถานประกอบการ ในมิติการลดปัจจัย เสี่ยงต่อสุขภาพของคนงาน (ลดละเลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และการพนัน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคระบาดโควิด-19) ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางสุขภาพและความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ข้อ 6. ขอให้รัฐบาล "จัดตั้งธนาคารแรงงาน" เพื่อให้เป็นสถาบันการเงิน การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และส่งเสริมการ ออมของผู้ใช้แรงงานโดยเฉพาะ

ข้อ 7. ให้รัฐบาลส่งเสริมอาชีพทางเลือก และประกันรายได้ให้กับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ประกิบอาชีพทางเลือก

นายมนัส โกศล กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์ด้านแรงงานปี 2564-2565 ผลกระทบจากแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบว่าในส่วนขององค์กรภาคเอกชนด้านการอุตสาหกรรม มีการปรับกลยุทธ์และการออกแบบการทำงานในรูปแบบใหม่เพื่อการลดต้นทุน อีกทั้งมีการปรับโครงสร้างองค์กรและออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ ส่งผลให้รูปแบบการจ้างงานมีความยืดหยุ่น จากการจ้างงานแบบประจำ มาเป็นรูปแบบการจ้างงานในระยะสั้นประเภทต่างๆ ทั้งการจ้างงานในรูปแบบ เอาต์ซอร์ส (Outsource) หรือให้รับงานไปทำที่บ้าน

ประธาน สพท.กล่าวอีกว่า อีกทั้งมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาทำแทนแรงงานคนมากขึ้น อาทิ พนักงาน ขายหน้าร้าน พนักงานบริการลูกค้า พนักงานส่งเอกสารธุรการ พนักงานขนส่ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการประกอบ ธุรกิจของผู้ประกอบการ ส่งผลต่อความจำเป็นในการที่ใช้แรงงานคน มีแนวโน้มลดลงไปด้วย โดยทางผู้ประกอบการจะใช้วิธีปรับโครงสร้างองค์กร เลิกจ้างคนงาน หรือจัดทำโครงการสมัครใจออกจากงาน (Early Retirement) ผลจากการลดกำลัง แรงงานในระบบอุตสาหกรรมรวมทั้งภาคธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ทำให้ตัวเลขของอัตราการว่างงานมากขึ้น ซึ่งสร้างผลกระทบต่อความไม่มั่นคงในการทำงานของผู้ใช้แรงงานที่จะดำรงชีวิตต่อไปในอนาคต


นายมนัส กล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น สภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย (สพท.) เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พร้อมองค์กรเครือข่ายด้านแรงงานทุกภาคส่วน จึงขอประกาศแถลงการณ์ข้อเรียกร้องในวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2564 ให้นายกรัฐมนตรีได้ทราบต่อไป.