ตำรวจสมุทรปราการ ใช้เวลาเพียงวันเดียว ตามจับแก๊งโจรที่ลอบเข้าไปงัดเซฟ ลักเงินสด ทองคำ ไข่มุก นาฬิกาหรูในบริษัทนักธุรกิจชาวไต้หวัน มูลค่าเกือบ 10 ล้าน โดยได้เบาะแสรถสองแถว พบ 2 คนรู้จักเป็นเพื่อนกันในเรือนจำ
เวลา 11.00 น.วันที่ 7 เม.ย. ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ร่วมกันแถลงจับกุม นายทวีศักดิ์ สุขประเสริฐ อายุ 48 ปี นายสินณพัฒน์ สุวรรณรัตน์ อายุ 54 ปี และ นายสำรวย ภักดี อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาคดี ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ฯ หรือรับของโจร พร้อมของกลาง 1.ไข่มุก และทองคำ มูลค่า 2.เงินธนบัตรไทยและสกุลต่างประเทศ 9 ล้านบาท นาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กซ์ 2 เรือน รวมทรัพย์สินทั้งหมดจำนวนเกือบสิบล้านบาท ชะแลงเหล็กอีก 3 อัน

พล.ต.ต.ชุมพล กล่าวว่า สืบเนื่องจาก วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวไต้หวัน ว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ ภายใน บริษัท คลาสสิค โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจ ผลิตหนังแท้เคลือบสีเพื่อจำหน่ายในประเทศและต่าง ตั้งอยู่ริม ถ.พุทธรักษา ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ
...
เมื่อไปถึงพบว่าในห้องทำงานของผู้บริหารบริษัทฯ มีร่องรอยการเรื้อค้นทรัพย์สิน และมีตู้เซฟ ที่เก็บเงินและเอกสารสำคัญถูกงัดแงะได้รับความเสียหาย ตรวจสอบพบว่ามีทรัพย์สินเงินสด ไข่มุก ทองรูปพรรณ และนาฬิกาข้อมือ หายไป รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 9 ล้านบาท จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บลายนิ้วมือแฝง และกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้เคียง
กระทั่งพบว่า เวลาประมาณ 23.59 น.วันที่ 5 เม.ย. 64 มีชายต้องสงสัยจำนวน 2 คน เดินวนเวียนอยู่หน้าบริษัท และมีชายอีก อีก 1 คน ขับรถสองแถว บริเวณกระจกมีข้อความ "สำโรง พระประแดง" ติดอยู่ ซึ่งไม่ใช่รถที่จะวิ่งเส้นทาง ถ.พุทธรักษา ขับมาชะลออยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ต่อมา เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบยังท่ารถโดยสาร สาย "สำโรง พระประแดง" จนพบรถสองแถวที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับรถที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด และพบนายสำรวย หนึ่งในผู้ต้องหา แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ จึงได้นำตัวมาสอบสวน
นายสำรวย รับว่าตนได้รับการชักชวนจาก นายสินณพัฒน์ นายทวีศักดิ์ ให้ขับรถพาไปส่งที่เกิดเหตุ โดยได้รับค่าจ้าง 25,000 บาท หลังจากได้รับค่าจ้างแล้ว ได้จอดส่งทั้งสองคน ลงบริเวณใกล้โรงเรียนนายเรือ ถ.สุขุมวิท ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีเวลา 19.30 น. ของวันที่ 6 เม.ย. 64 เจ้าหน้าที่จึงติดตามผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินคืนผู้เสียหายได้บางส่วน และขยายผลจับกุม นายไพโรจน์ สุขประเสริฐ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นญาติของนายทวีศักดิ์ ทำหน้าที่รับฝากของได้อีก 1 คน แจ้งข้อหารับของโจร
พล.ต.ต.ชุมพล กล่าวว่า สำหรับนายทวีศักดิ์ และนายสินณพัฒน์ พบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก หลังพ้นโทษออกมาไม่นาน ได้ชักชวนกันมาก่อเหตุอีก เนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง อาศัยช่วงที่บริษัทปิดเนื่องจากไม่มีคนอยู่ ใช้ชะเแลงงัดเซฟ และนำเงินไปแบ่งกัน
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำลายเครื่องกีดขวาง โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนี หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร ก่อนจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป