ตำรวจนำตัวเมียมือชำแหละศพผัว พร้อมหลานชายที่ร่วมด้วยช่วยกันฆ่า ทำแผน เผยเก็บความแค้นถูกทำร้ายมา 20 ปี คว้ามีดแทงเข้าอกซ้ายตายคาที่ ก่อนตัดสินใจชำแหละแยกใส่ถุงดำ 3 ถุง แวะซื้อน้ำมัน ตระเวนทิ้งและเผาข้ามจังหวัด ก่อนขับรถกลับแล้วไปทำงานปกติ
วันที่ 3 มีนาคม ภายหลัง พบส่วนศีรษะ นายสุบิน เกตุหิรัญ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ถูกนำใส่ถุงมาโยนทิ้งไว้บริเวณริมถนน สาย 356 ตัดจากถนนสาย 347 ปทุมธานี - บางปะหัน แยกออกมาจากสายเอเชีย เลยสี่แยกไฟแดงบ้านกรด หมู่ 7 ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากพบท่อนลำตัว แขน และขา ถูกหั่นนำไปเผาทิ้งใน อ.วังน้อย และ อ.บางปะอิน ก่อนหน้านี้ โดยที่ นางวาสนา เข็มทอง ภรรยา สารภาพว่าร่วมมือกับ นายอนันตชัย ถิ่นชัยโย หลานชาย ลงมือฆ่าหั่นศพนายสุบิน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในบริเวณจุดที่ทิ้งแขนขา ริมถนนสาย 347 และเดินทางต่อไปทำแผนบริเวณจุดที่ทิ้งศีรษะบริเวณริมถนน 356 บริเวณหมู่ 7 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน แล้วมุ่งหน้าไปทำแผนต่อจุดทิ้งลำตัว บริเวณถนนซอยโรงอิฐบล็อก หมู่ 4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อยจ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่าสาเหตุเกิดจากการที่ นางวาสนา และ นายสุบิน ทะเลาะกันมาตลอดที่เป็นสามีภรรยากว่า 20 ปี มีการทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงเป็นประจำ จนหมดความอดทน จนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. นายสุบิน ผู้เสียชีวิตได้ขับรถมาที่บ้านและดื่มเหล้าขาว มีอาการมึนเมา และได้ทะเลาะวิวาทกับนางวาสนา ซึ่งเป็นภรรยา
กระทั่งเวลา 22.00 น. นายสุบิน ผู้เสียชีวิตเลิกดื่มสุรา แล้วเข้าไปหาภรรยาคือ นางวาสนา แต่มีปากเสียงทะเลาะกันอีก ขณะนั้นมี นายอนันตชัย หรือ เมฆ ถิ่นชัยโย อยู่ในเหตุการณ์ พอช่วงเวลา 23.00 น. นางวาสนา และ นายอนันต์ชัย ได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุ โดยใช้มีดแทงที่ราวนมซ้ายของนายสุบิน จนเสียชีวิต และทั้งสองได้นั่งอยู่ข้างศพประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนตัดสินใจหั่นแยกชิ้นส่วนศพของผู้เสียชีวิต แล้วไปซื้อถุงดำที่ร้านสะดวกซื้อ และร่วมกับนายอนันตชัย หั่นแยกชิ้นส่วนเป็น 3 ถุง คือ มือ แขน ขาจำนวน 1 ถุง ศีรษะ 1 ถุง และส่วนลำตัวใช้ป้ายไวนิลมาคุมร่าง ใช้เชือกมัด จำนวน 1 ถุง
...
"จากนั้นเวลาประมาณ 02.00 น. ได้นำศพและชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตออกไปทิ้ง โดยใช้รถยนต์อีซูซุสีขาว ณท 6274 กทม. และได้แวะซื้อน้ำมันดีเซลบี 7 ที่ปั๊ม ปตท.ราชพฤกษ์ โดยใช้ถังแกลลอนสีเหลือง เป็นเงินจำนวน 140 บาท ขับมุ่งหน้าไปยังอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำการทิ้งถุงดำที่ใส่ชิ้นส่วนแขนขา บริเวณถนนสาย 347 จุดที่ 1 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนน 3056 เพื่อทิ้งถุงดำส่วนหัว ในบริเวณจุดที่ 2 ต่อมา นายอนันตชัย หลานชายได้ขับรถมุ่งหน้าสายเอเชียไปสระบุรีและเลี้ยวไปหลังวัดชูจิตในจุดที่ 3 เพื่อทิ้งชิ้นส่วนลำตัวเป็นลำดับสุดท้าย และผู้ก่อเหตุทั้งสองได้ขับรถกลับบ้าน เวลาประมาณ 08.00 น. นายอนันต์ชัยได้ออกไปทำงาน และนำมีด เสื้อผ้า ที่ใช้ก่อเหตุโยนทิ้ง"
สำหรับ นายอนันตชัย ถิ่นชัยโย อายุ 23 ปี เคยขับรถแบ็กโฮในบริเวณที่เกิดเหตุ อ.วังน้อย จุดที่นำชิ้นส่วนลำตัวไปเผาทิ้ง จึงรู้เส้นทาง นอกจากนี้ยังเป็นคนชอบขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำให้ทราบเส้นทางและจุดที่เปลี่ยว ในการนำชิ้นส่วนที่ชำแหละไปทิ้งและเผา