“ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” หอบหลักฐานเข้าแจ้งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เอาผิดกับ ป.ป.ท. ตาม ม.157 และ ม.200 วรรคสอง หลังถูกชี้มูลความผิดสั่งให้ออกจากราชการ กรณีเผาบ้าน “ปู่คออี้” กะเหรี่ยงแก่งกระจาน เจ้าตัวดิ้นสู้ อ้างทั้งหมดเป็นการสอบสวนโดยมิชอบ ขาดข้อมูลเพียงพอ ซ้ำยังมีหลักฐานจุดที่เผาเป็นคนละแห่งกัน

ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 มี.ค. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นำหลักฐานเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ภูสิทธิ์ บุตรแสง รอง สว. (สอบสวน) บก.ปปป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตาม ป.อาญา ม.157 และ ม.200 วรรคสอง การกระทำหรือไม่กระทำนั้น เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชุดทำคดีนายชัยวัฒน์กับพวกรวม 6 คน รื้อถอนเผาบ้านเรือน ยุ้งฉางและทรัพย์สินของนายโคอิ หรือปู่คออี้ มีมิ ชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน และบ้านเรือนอีกหลายหลัง โดยมีคำสั่งให้นายชัยวัฒน์ออกจากราชการ

หลังเสร็จสิ้น นายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ม.157 และมีมติให้ออกจากราชการ เหมือนเป็นการแช่แข็งให้หยุดทำงาน แต่กว่าที่ศาลจะมีคำพิพากษาตนคงเกษียณอายุราชการ ไปแล้ว มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากป.ป.ท.สอบสวนโดยมิชอบ ขาดข้อมูลที่เพียงพอ และกล่าวหาตนเผาหมู่บ้านตั้งแต่แรก ยืนยันมีหลักฐานสามารถชี้แจงได้ ทั้งนี้ช่วงเช้าตนพร้อมทีมกฎหมาย เดินทางไปที่ ป.ป.ท.เขต 7 จ.นครปฐม เพื่อสอบถามข้อมูล ทราบว่าได้ส่งข้อมูลไปให้บอร์ด ป.ป.ท.ชุดใหญ่แล้วพร้อมปฏิเสธให้รายละเอียด ส่วนกรณีของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษนั้น พบ ป.ป.ท.มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงหลักฐานบางส่วน

...

“คดีเผาบ้านปู่คออี้ พ่อเฒ่ากะเหรี่ยงบ้านบางกลอย พร้อมบ้านอีก 98 หลังนั้น ผมขอชี้แจงว่า ชุดปฏิบัติการเผาทำลายหมู่บ้านทางจังหวัดภาคเหนือเนื่องจากพบกลุ่มคนพกพาอาวุธและยาเสพติด ซึ่งไม่ทราบฝ่าย ส่วนหมู่บ้านของปู่คออี้ อยู่ที่ห้วยสามแพร่ง จ.ราชบุรี ไม่มีการเผาทำลายแต่อย่างใด เป็นสถานที่คนละแห่งกัน แต่กลับมาสรุปพวกผมผิด ผมปฏิบัติหน้าที่เพื่อแผ่นดินมาตลอดชีวิตราชการ จับกุมพวกค้าสัตว์ป่า ค้าไม้ การชี้มูลความผิดครั้งนี้กระทบต่อขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจงทางหน่วยงานต้นสังกัดให้ออกจากราชการ ผมจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ” นายชัยวัฒน์กล่าว