โจรหนุ่ม กอเหตุวิ่งราวทองคำ 2 เส้นหนัก 4 บาทจากร้านทองย่านสำโรงเหนือ สมุทรปราการ พบทำทีมาขอดู เลือกอยู่พักใหญ่ ก่อนคว้าวิ่งไปขึ้นจยย. ที่เพื่อนสตาร์ตเครื่องรอ ขณะที่พนักงานร้านทองใกล้กันบอก จำได้ มาที่ร้าน 2 วันติด อ้างจะซื้อมาทองให้แฟนวันวาเลนไทน์ แต่ท่าทางมีพิรุธ  


เวลา 14.30 น.วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.อ.รัชชานนท์ ฟักเงิน รอง สว.สอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ รับแจ้ง เหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ภายในห้างทองเยาวราช ศรีนครินทร์ ซอยด่านสำโรง ซอยย่อยด่านสำโรง 4 ต.สำโรงเหนือ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย และกำลังฝ่ายสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบพนักงานแตกตื่นกับเหตุการณ์ ขณะตำรวจได้สั่งทางร้านทองไม่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ก่อนที่ร้านจะเร่งตรวจสอบทองในสต็อก และปิดบริการทันที

เบื้องต้น ทราบว่าคนร้ายได้สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ไปจำนวน 2 เส้น ค่ากว่า 1 แสนบาท ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมหมวกแก๊ปสีขาวใช่แมสก์ผ้าสีขาวปิดปากและจมูก เข้ามาขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ขณะที่พนักงานของร้านทอง หยิบสร้อยทองเส้นละ 2 บาท จำนวน 2 เส้น มาให้ คนร้ายทำทีดูอยู่พักใหญ่ พอสบโอกาสได้หยิบทองวิ่งชนประตู และหนีออกนอกร้านไปได้ วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ซึ่งมีเพื่อน สวมเสื้อยึดแขนสั้นสีดำสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สีดำ สตาร์ตเครื่องจอดรออยู่ข้างร้าน ขี่หลบหนีไปทางถนนศรีนครินทร์ อย่างรวดเร็ว

...

ต่อมา พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบสวนพยานแวดล้อมด้วยตนเอง สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี

ขณะที่พนักงานร้านทองดำรงชัย เยาวราช ซึ่งอยู่ห่างจากร้านที่เกิดเหตุ ประมาณ 50 เมตร บอกว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา มีชายวัยรุ่น ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุ เข้ามาทำทีเลือกขอดูสร้อยคอและข้อมือหนัก 3 บาท ลายของผู้หญิง อ้างว่าจะซื้อไปเป็นของขวัญให้แฟนในวันแห่งความรัก ระหว่างนั้นคนร้าย จะขอลองใส่ แต่ตนไม่กล้าให้ เนื่องจากพบผิดความปกติและไม่น่าไว้ใจ ขณะนั้นเป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาตรวจในร้าน ชายคนดังกล่าวจึงรีบเดินออกไป

ต่อมา ตนจึงแจ้งข้อมูลให้พนักงานทุกคนทราบว่า หากชายคนนี้กลับมาที่ร้านอีกให้บอกไปว่า ร้านกำลังเช็กสต็อก ยังไม่สามารถขายทองได้ กระทั่งบ่ายวันนี้ ชายคนนี้ก็กลับที่ร้านอีกครั้ง ทางร้านแจ้งไปว่าไม่สามารถขายให้ได้ จึงออกจากร้านไป กระทั่งทราบว่า มีเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่ห้างทองเยาวราช ศรีนครนิทร์ และคนร้ายเป็นคนเดียวกัน