แม่ค้าร้านยำแซ่บ ท่ารถ บขส.อุทัยธานี ได้รับผลกระทบพริกขี้หนูแดงขึ้นราคากิโลกรัมละ 200 จากเดิมแค่ 90 แต่ยังไม่ปรับราคา ยอมแบกรับต้นทุนสูงขึ้น เอากำไรน้อยลง

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 28 มกราคม 2564 ที่ร้านเปรี้ยวปากยำแซ่บ ซึ่งเป็นร้านขายส้มตำและยำแทบทุกชนิด เช่นยำมาม่า ยำหอยแครง ยำหมูยอ ส้มตำ ชนิดต่างๆ หรือเรียกว่า ร้านนี้ขายสารพัดยำที่ลูกค้านั้นจะสั่งก็ว่าได้ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ท่ารถ บขส.อุทัยธานี โดยในตอนนี้ น.ส.ออย (เจ้าของร้าน ขอสงวนชื่อจริง) ได้เปิดเผยว่า ร้านที่ตัวเองขายยำและส้มตำอยู่ในตอนนี้ โดนผลกระทบเกี่ยวกับราคาพริกเช่นกัน โดยพริกขี้หนูแดงในตอนนี้ราคาจากเดิมกิโลกรัมละ 90 บาท ในตอนนี้ราคาขึ้นมาอยู่ที่ 200 บาท ซึ่งพริกขี้หนูแดงนั้นเป็นสิ่งจำเป็นมากในการประกอบอาหารประเภทยำและเป็นเครื่องปรุงของยำ และส้มตำทุกเมนูเลยก็ว่าได้ ซึ่งราคาขายยำต่างๆ นั้น จะขายถุงละ 50 บาท แต่พริกที่ขึ้นราคานั้นก็ส่งผลกระทบในเรื่องต้นทุนการขายของ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นราคายำ หรือส้มตำแต่อย่างใด เนื่องจากกลัวว่าลูกค้าที่มาซื้อประจำนั้นจะบ่นว่าแพง หรือไม่ก็เกรงว่าลูกค้าจะไม่มาอุดหนุนนั่นเอง จึงจำเป็นต้องแบกภาระเรื่องต้นทุนไว้แบบนี้ แต่ราคาขายนั้นก็ยังคงเดิม

ส่วนร้านลูกชิ้นนึ่ง นางสาวกัญญรัตน์ เรืองการนา ตั้งอยู่ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี เจ้าของร้าน เผยว่า ในตอนนี้ราคาพริกชนิดต่างๆ ที่ร้านของตัวเองต้องใช้หลายประเภท เช่น พริกเม็ดใหญ่ พริกขี้หนูใหญ่ โดยพริกขี้หนูเม็ดเล็กสีแดงราคาขึ้นสูงมาก ซึ่งร้านของตัวเองจำเป็นต้องใช้ก็เพราะมีรสเผ็ดและหอม โดยที่ร้านจะขายลูกชิ้นยำไม้ละ 5 บาท และใช้น้ำจิ้มเป็นพริกสดก็จำต้องเพิ่มต้นทุนในการขายของเช่นกัน และหากขึ้นราคาลูกชิ้นนึ่งก็กลัวว่าลูกค้าจะบ่นว่าแพง

...

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สำรวจร้านจำหน่ายผักต่างๆ ที่แผงจำหน่ายในตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี แม่ค้าบางร้านได้เปิดเผยว่า ถ้าเป็นพริกที่ชาวสวนจังหวัดอุทัยธานีปลูกเองราคาก็จะขึ้นไม่เท่าไหร่ จะอยู่กิโลกรัมละ 150 บาท แต่ถ้าเป็นพริกขี้หนูแดงที่ส่งมาจากจังหวัดอื่น ราคาก็จะสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท แต่แม่ค้าก็จะไม่นำมาจำหน่าย เพราะราคาสูงกลัวว่าลูกค้าจะไม่ซื้อและเน่าเสีย

ทั้งนี้แม่ค้านั้นก็จะใส่ถุงแบ่งขายถุงละ 10 บาทบ้าง หรือ 20 บาทบ้าง แต่ไม่ถึง 1 ขีด จึงดูไม่แพง เพราะลูกค้านั้นนิยมที่จะซื้อพริกถุงเล็กๆ ไปประกอบอาหารที่บ้านเป็นมื้อๆ ไป ส่วนร้านขายของหรือร้านที่จำหน่ายอาหารนั้นต้องซื้อพริกขี้หนูแดงเป็นกิโลกรัม จำต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้นเป็นธรรมดา และอีกไม่นานราคาพริกนั้นก็จะลดลงไปเอง ส่วนราคาพริกขี้หนูแดงนั้น แม่ค้าบอกว่าในตอนนี้นั้นราคาส่งแพงจริงๆ จึงเลือกพริกในจังหวัดอุทัยธานีที่ชาวสวนมาปลูกเองมาจำหน่าย ดีกว่ารับมาจากที่ปลูกจากจังหวัดอื่นๆ แล้วมาส่ง.