ผู้ว่าฯปทุมธานี ออกหนังสือ 2 ฉบับ เข้มมาตรการป้องแพร่ระบาดโควิดฯ ปิดสถานศึกษา 14 วัน ตลาดนัด-ตลาดสด 4 แห่ง สั่งทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.63 ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ออกหนังสือคำสั่ง 2 ฉบับ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

โดย ฉบับที่แรก ระบุว่า ตามที่ จ.ปทุมธานี ได้มีประกาศเรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ฉบับลงวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ให้ผู้เกี่ยวข้องได้ถือปฏิบัติไปแล้วนั้น โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ปรากฏการระบาดขึ้นใหม่ในพื้นที่บางจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ได้ขยายเป็นวงกว้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ดังนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานกรณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 8) ฉบับลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจังหวัดปทุมธานี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 3/2564 วันที่ 25 ธันวาคม 2563 จึงกำหนดมาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มเติม ดังนี้ 

1.การเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดใหม่ของโควิด-19 โดยแบ่งพื้นที่เฝ้าระวังของ จ.ปทุมธานี ออกเป็น 2 โซน ประกอบด้วย 

  1.1 พื้นที่เฝ้าระวังสูง คือ พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดและพบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย ทั้งนี้สถานที่ใดเป็นไปตามนัยข้อดังกล่าว ให้นายแพทย์  สาธารณสุขประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงโดยให้ดำเนินการ ดังนี้ 

...

        ก.เร่งรัดการตรวจหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ที่เสี่ยง กลุ่มบุคคลที่เสี่ยง และกิจกรรม/กิจการที่เสี่ยง

        ข.ให้มีมาตรการป้องกันโรค-สวมหน้ากากอนามัย 100%
           - ทำความสะอาดมือ สถานที่ หรืออุปกรณ์ที่สัมผัสบ่อยๆ
           - หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก
           - ลงทะเบียนเข้าพื้นที่หรือร่วมกิจกรรมผ่าน Application ไทยชนะ หรือ โดยระบุชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์

        ค. ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า-ออกจากพื้นที่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

        ง. ให้พิจารณาใช้มาตรการ Work From Home ตามความเหมาะสม

        จ.หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ

  1.2 พื้นที่เฝ้าระวัง คือ พื้นที่ที่ไม่พบการแพร่ระบาดและไม่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 14 วัน นอกเหนือตามข้อ 1.1 ให้ดำเนินการดังนี้
       (1) ให้มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ที่เสี่ยง กลุ่มบุคคลที่เสี่ยง และกิจกรรมกิจการที่เสี่ยง
       (2) ให้มีมาตรการป้องกันโรค
            - สวมหน้ากากอนามัย 100%
            - ทำความสะอาดมือ สถานที่ หรืออุปกรณ์ที่สัมผัสบ่อยๆ
            - หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก
            - ลงทะเบียนเข้าพื้นที่หรือร่วมกิจกรรมผ่าน Application ไทยชนะ หรือ โดยระบุชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
       (3) ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า-ออกจากพื้นที่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
       (4) หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก หากมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ให้ยื่นแผนการจัดงานและมาตรการควบคุมโรค ต่อ ศปก.อำเภอ/เทศบาล ก่อนจัดงาน โดยให้ลดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือลดความหนาแน่นของผู้ร่วมกิจกรรมลง

2.ให้ปิดสถานที่การดำเนินการกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ตามความเหมาะสม เป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2563 ถึง 8 มกราคม 2564 ดังนี้
       2.1 สถาบันอุดมศึกษา (ภาครัฐและเอกชน) ทั้งในระบบและนอกระบบ
       2.2 โรงเรียน (ภาครัฐ-เอกชน-นานาชาติ)
       2.3 สถานที่กวดวิชา
       2.4 สถานรับเลี้ยงเด็ก/ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

สำหรับสถานที่ตามข้อ 2.1 ถึง 2.4 ที่มีความพร้อมในการเรียนการสอนสามารถยื่นแผนการจัดการเรียนการสอน และมาตรการควบคุมโรต ต่อ ศปก.อำเภอ/เทศบาล เพื่อขอเปิดดำเนินการ 

ทั้งนี้ คณะกรมการโรคติดต่อ จ.ปทุมธานี จึงขอให้ทุกภาคส่วน ถือปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้โดยเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในบรรดาประกาศที่ได้ออกไว้ก่อนหน้านี้ ให้มีผลบังคับใช้ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศฉบับนี้ อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรง แก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2639 ประกาศ ณ วันที่ 25 เดือนธันวาคม พ.ศ.2563 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดปทุมธานี

...

ฉบับที่สอง เรื่องปิดสถานที่ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยระบุว่า ด้วยไดัปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาดขึ้นใหม่ ในพื้นที่บางจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ประกอบอาชีพค้าขายในตลาดนัดในเขตพื้นที่ อ.เมืองปทุมธานึ อ.คลองหลวง อ.ธัญบุรี และ อ.หนองเสือ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2548 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 8) ฉบับลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 3/2564 วันที่ 25 ธันวาคม 2563 จึงให้ปิดสถานที่ตลาดนัด จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ดังนี้

1.ตลาดสดอินเตอร์มาร์ท ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี
2.ตลาดคลองสี่เมืองใหม่ ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง
3.ตลาดชุมชนเคหะรังสิต คลอง 6 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี
4.ตลาดนัดวัดปทุมนายก ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ 

โดยขอให้ ศปก.อำเภอ ศปก.ตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ร่วมกันดำเนินการทำความสะอาด ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่เสี่ยงดังกล่าว และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแนวทางของประกาศจังหวัดปทุมธานี และมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด สำหรับตลาดใดที่ได้ถูกสั่งปิดก่อนหน้านี้ หรือตามคำสั่งนี้ครบจำนวน 3 วัน หากได้ดำเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์การสอบสวนโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแล้ว และมีความพร้อมในการเปิดดำเนินการ สามารถยื่นแผนการจัดการและมาตรการควบคุมโรค ต่อ ศปก.อำเภอ/เทศบาล เพื่อขอเปิดดำเนินการต่อไป ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับ ไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2563 ถึง 8 มกราคม 2564 สั่ง ณ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2563 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดปทุมธานี

...