เผยที่มาของรูปปั้นสัตว์หน้าตาแปลกๆ แหวกแนว ด้านหน้าวิหาร วัดมรรครังสฤษดิ์ จ.นครสวรรค์ มาจากฝีมือการปั้นของ หลวงพ่อริ้ว เจ้าอาวาส คนแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2485 เพื่อชาวพุทธได้ใช้จินตนาการเรียนรู้
หลังจากที่มีผู้คนบนโลกโซเชียลได้มีการแชร์รูปของรูปปั้นสัตว์หิมพานต์ ของวิหารภายในวัดมรรครังสฤษดิ์ ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ จนเป็นที่ฮือฮาและวิพากษ์วิจารณ์ถึงการออกแบบปั้นของช่างศิลป์ในสมัยก่อน
วันนี้ 8 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดตะคร้อ หรือวัดมรรครังสฤษดิ์ตำบลหาดเสลา อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งในวัดมีวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2485 อายุกว่า 80 ปี ข้างในเต็มไปด้วยพระที่ปั้นด้วยมือของหลวงพ่อริ้ว และพระผู้น้องกว่า 30 องค์ บรรยากาศในวิหารให้ความรู้สึกเย็นสบาย และมีพระที่ปั้นจากปูนขึ้นเป็นพระพุทธรูปที่แปลกตา แถมยังดูคล้ายกับพระการ์ตูน ชาวบ้านเล่ากันว่า หลวงพ่อริ้ว ได้ปั้นขึ้นจากประสบการณ์ที่ท่านเคยเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ในภาคเหนือและต่างประเทศ จึงได้ช่วยกันกับพระผู้น้องปั้นขึ้น ทีแรกจะทำเป็นโบสถ์ แต่สุดท้ายก็ได้เป็นแค่วิหารให้ชาวบ้านได้เข้าไปกราบไหว้บูชา
...
พระประเสริฐ ถาวะระธัมโม รองเจ้าอาวาสวัดมรรครังสฤษดิ์ เผยถึงที่มาของวัดว่า วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2485-86 โดยหลวงพ่อริ้ว กุสลจิตโต เจ้าอาวาสวัดองค์แรก และยังเป็นพระเกจิ โด่งดังวัตถุมงคลของขลังด้านแคล้วคลาด คงกระพัน อีกด้วย ซึ่งหลวงพ่อริ้วกับพระน้องชายได้จัดสร้างวิหารหลังนี้ขึ้นมา ซึ่งในสมัยนั้น หลวงพ่อริ้ว ได้ตั้งชื่อเป็นวัดตะคร้อ เพราะมีต้นตะคร้อใหญ่ยืนต้นอยู่กลางวัด กระทั่งต่อมา อาจารย์จันทร์ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้มีการขอเปลี่ยนชื่อจากวัดตะคร้อ เป็นวัดมรรครังสฤษดิ์ ซึ่งแปลความหมายว่า หนทางสู่ความสำเร็จ
รองเจ้าอาวาสวัดมรรครังสฤษดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนภายในวัดแห่งนี้ นอกจากจะมีโบสถ์ ศาลาการเปรียญ รวมถึงกุฏิพระ แบบเหมือนกับวัดทั่วไปแล้ว ก็มีการสร้างพระวิหารที่ไม่เหมือนใคร แล้วก็ไม่มีใครเหมือน มีรูปปั้นที่แปลกตามากมาย จำนวนหลายอย่าง ซึ่งสมัยที่วัดเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ยังไม่มีอะไรที่สวยงามเลย ตั้งใจว่าจะใช้วิหารนี้เป็นพระอุโบสถ กลับถูกทางการไม่อนุญาต จนต้องสร้างพระอุโบสถตามแบบมาตรฐานขึ้นมาใหม่แทน
นายผจญ พูลเกลี้ยง อายุ 73 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าให้ฟังว่า ตนเองเห็นวิหารหลังนี้ตั้งแต่จำความได้โดยมีหลวงพ่อริ้ว กุสลจิตฺโต ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้น โดยหลวงพ่อและพระผู้น้องได้ช่วยกันปั้นพระในวิหาร ร่วมถึงสร้างวิหารด้วย ซึ่งสาเหตุที่สร้างพระพุทธรูปออกมาแปลกตานั้น เพราะในสมัยก่อนวัดแห่งนี้เป็นวัดเล็กๆ ไม่มีปัจจัยจ้างช่างมีฝีมือ หรือซื้ออุปกรณ์ในการปั้น ทำให้หลวงหลวงพ่อต้องลงมือขึ้นเอง เพื่อให้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงสองปีที่ผ่านมา ทางชาวบ้านก็ได้ช่วยกันทาสี เพื่อให้วิหารและพระพุทธรูปดังกล่าว ไม่ให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และเพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในหมู่บ้านตลอดไป.
...