ตำรวจลุยล่าตัวเจ้าของบริษัทเงินกู้โหด หลังลงโทษซ้อมลูกจ้างทำผิดกฎบริษัท ทั้งเตะทั้งเฆี่ยนต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน “ไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง” แต่คลิปโหดหลุดกระจายในสื่อโซเชียล จน ผบช.สอท.ส่งทีมสืบบุกไปหาเหยื่อถึงบ้านพาเข้าแจ้งความดำเนินคดี แฉจดทะเบียนเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องประดับและทองรูปพรรณ อำพรางการปล่อยกู้ดอกเบี้ยเกินอัตรา ให้คนกู้ทำสัญญาซื้อทองแล้วถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ขณะที่เหยื่อทัณฑ์โหดยอมรับทำผิดกฎบริษัท เพราะสงสารลูกค้าที่หาเงินใช้หนี้ไม่ทันจากพิษโควิด นำเงินลูกค้ารายอื่นลงบัญชีจ่ายแทนไปก่อน ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
ตำรวจเดินหน้าลุยเอาผิดแก๊งเงินกู้ยำโหดลูก สมุนเตะหัวแล้วเฆี่ยนซ้ำในบริษัทต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน จนมีคนนำคลิปเผยแพร่ทางโซเชียลประจานความเหี้ยมแก๊งเงินกู้กลายเป็นข่าวฮือฮา โดยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายต้นกล้า ใจฉ่ำ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/1 หมู่ 12 ต.อุดมธัญญา อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ชายที่ตกเป็นเหยื่อทัณฑ์โหด พร้อมภรรยาและลูก เข้าพบ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล รอง ผบก.สอท.2 เพื่อให้ข้อมูล เหตุการณ์ที่ถูกเตะในบริษัท ที.เอ็ม.เอ็น.กรุ๊ป 2018 ที่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพงลิ่วในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน เหตุเกิดที่ อ.เมืองสมุทรสาคร เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
นายต้นกล้ากล่าวว่า ตนเห็นบริษัทเปิดรับสมัครพนักงานเก็บเงินผ่านเฟซบุ๊ก ติดต่อสมัครทำงานและเข้าทำงานเมื่อเดือน ต.ค.62 ได้เงินเดือน 12,000 บาทไม่รวมค่าคอมมิชชัน ส่วนเหตุการณ์ตามคลิปที่เกิดขึ้นเดือน ก.พ. ตนเก็บเงินจากลูกค้า รายหนึ่งไม่ได้เพราะเริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ลูกค้าไม่มีเงินส่ง ด้วยความสงสารตนได้แต่งบัญชีโยกเงินจากลูกค้าคนอื่นเอามาจ่ายแทนเพื่อช่วยเหลือ แต่บริษัทจับได้ว่าตนแต่งบัญชีให้กับลูกค้า เป็นการทำผิดกฎของบริษัท ถูกหัวหน้า สายลงโทษทำร้ายร่างกายด้วยการเตะต่อยใบหน้า แล้วใช้สายยางถังแก๊สฟาดตามลำตัวหลายครั้งได้รับบาดเจ็บเจ้าของบริษัทเป็นคนถ่ายคลิปไว้
...
เหยื่อทัณฑ์โหดกล่าวต่อว่า ตนยอมรับที่ทำผิดกฎของบริษัท แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่น่าจะต้องทำรุนแรงขนาดนี้ ทำเหมือนตนไม่ใช่คน แต่ทางบริษัทมองว่าเป็นกฎที่ต้องทำเพื่อไม่ให้คนอื่นทำตาม หลังเกิดเหตุตนเคยคิดจะไปแจ้งความแต่ไม่มีหลักฐานและกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย จึงทำงานต่อจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม เพื่อรอรับเงินเดือนก่อนจะลาออก แล้วย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด จนเมื่อวานมีตำรวจตามไปถึงบ้านสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พอรู้ว่าเป็นบุคคลในคลิปเชิญตัวมาให้ปากคำ ยืนยันจะเอาเรื่องคนที่ทำร้ายและคนที่สั่งการให้ถึงที่สุด
ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. กล่าวว่า บริษัท ที.เอ็ม.เอ็น.กรุ๊ป 2018 จำกัด มีการ จดทะเบียนการค้า ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับประกอบกิจการขายทองรูปพรรณ ตั้งอยู่เลขที่ 86/6 หมู่ 1 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี แต่เป็นการ อำพรางการกู้เงินที่เรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด คนที่มากู้ยืมส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการกู้เงินด่วนไปใช้ ทางบริษัทจะเรียกมาทำสัญญาซื้อขายทองแล้วถ่ายรูปคู่กับทอง แล้วรับเงินสดไปแทนเพื่อเลี่ยงกฎหมาย สั่งการให้ พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล รอง ผบก.สอท.2 ติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีในข้อหาให้กู้ยืมเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยผู้เสียหายจะเป็นพยานในคดีและจะนำเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานต่อไป
ต่อมา พ.ต.อ.ณวัฒน์ ศุกลรัตน์ ผกก.สส.ภ.จ.สมุทรสาคร พร้อมกำลังร่วมกับตำรวจ บช.สอท. นำนายต้นกล้ามาสอบปากคำในฐานะผู้เสียหายคดีทำร้ายร่างกายที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร รักษาการ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ เครือวนิชธรรม ผกก. (สอบสวน) เข้าร่วมสอบปากคำใช้เวลาราวสองชั่วโมง
พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ เครือวนิชธรรม ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ผู้เสียหายบอกว่าผู้ที่ลงมือทำร้ายร่างกายคือหัวหน้าสายเก็บเงินกู้นอกระบบและเป็นเพื่อนกัน ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งให้ดำเนินคดีเพื่อนคนนี้ ส่วนบริษัทที่เกิดเหตุเลขที่ 138/181 ซอยศรีสวัสดิ์ หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร ตำรวจจะแจ้งข้อหาคนก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ส่วนประเด็นเรื่องเงินกู้กำลังสอบปากคำเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
จากนั้น พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร รักษาการ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร นำนายต้นกล้าไปชี้ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 138/181 ซอยศรีสวัสดิ์ เป็นบ้าน 2 ชั้น เนื้อที่กว่า 100 ตารางวา จุดเกิดเหตุตามคลิปเป็นอาคารชั้นเดียวหน้าตัวบ้าน ภายในมีโต๊ะ 1 ตัว และรองเท้าผ้าใบกองหนึ่ง ระหว่างเข้าตรวจค้นบ้านไม่ได้ปิดล็อกและไม่มีคนอยู่ในบ้านนำตรวจค้น ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไม่มีการตรวจยึดหลักฐานใดๆ