มีออกมาให้เห็นอีกแล้ว มารศาสนา ใช้ผ้าเหลืองในการกระทำผิด ครั้งนี้เป็นเรื่องราวของพระสงฆ์ต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เพื่อใช้ความเป็นพระสงฆ์เรี่ยไร หลอกลวงเงินทำบุญจากชาวบ้าน

ยังดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จ.สมุทรปราการ สืบสวนติดตามจับกุมคดีแบบนี้บ่อยครั้ง จนสามารถเข้าจับกุมพระกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองไทย อาศัยผ้าเหลืองหาเงิน ตามนโยบาย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ที่ไม่ปล่อยให้คนต่างด้าวเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทย

อาศัยผ้าเหลืองหากิน

คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จ.สมุทรปราการ รับแจ้งว่า มีพระสงฆ์พฤติกรรมน่าสงสัย ผิดจากพระสงฆ์ทั่วไป นั่งแท็กซี่มายืนรอรับบิณฑบาตจากชาวบ้าน ตั้งแต่เช้าจนเกือบถึงเที่ยง ย่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

สืบสวนทราบว่า พฤติกรรมของพระเหล่านี้ไม่เหมือนพระสงฆ์ทั่วไป คือมักจะมาบิณฑบาต เน้นรับแต่ปัจจัย ใช้เวลาบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืดจนถึงเวลา 10.00 น. และโดยสารรถแท็กซี่ไปกลับระหว่างเพิงพัก ซึ่งตั้งอยู่ในป่าลึกริมถนนย่านปริมณฑล

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 ให้ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จ.สมุทรปราการ พ.ต.ท.ชารัตน์ ชาคริตานันท์ รอง ผกก.ตม.จ.สมุทรปราการ เข้าตรวจสอบพบพระกลุ่มดังกล่าวลงรถแท็กซี่เดินเข้าพงหญ้าข้างถนน ถ.บางนา-ตราด กม.29 อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เข้าสอบถามพบว่าพระทั้ง 6 รูป ไม่สามารถสวดมนต์ได้ ท่องได้เพียงบทให้พรเท่านั้น และไม่ได้ปฏิบัติข้อวัตร ตามวินัยสงฆ์

ตรวจสอบโดยรอบที่พักพบเศษขยะจำนวนมาก คาดว่าหลบหนีมาซุกซ่อนอยู่บริเวณดังกล่าวหลายครั้งแล้ว พบว่าพระกลุ่มนี้ฉันอาหารทั้ง 3 เวลา บางจุดที่พักมีพระพุทธรูปวางอยู่บนพื้นดิน

ตำรวจขยายผลเข้าตรวจค้นเพิงพักของกลุ่มพระสงฆ์ต่างด้าวบริเวณริมถนนทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ จับกุมเพิ่มเติมได้อีก 6 รูป รวมเป็น 12 รูป

...

ตำรวจให้ไปลาสิกขา

สอบสวนรับสารภาพว่า เข้ามาในราชอาณาจักรไทย เพราะต้องการหาเงิน ประกอบกับที่บ้านเกิดเมืองนอนกำลังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงยอมเสียค่าธรรมเนียมบวชเณรที่ประเทศกัมพูชาราคารายละ 150 บาท เพื่อเอาใบสุทธิประกอบกับการบวชเณร ไม่ต้องรักษาศีลมากเท่าพระ

ก่อนลักลอบเข้าประเทศไทยมาหาที่พักอยู่เป็นกลุ่มๆในป่า ออกเรี่ยไรประชาชน เบื้องต้นแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต รอการผลักดันกลับประเทศ

ปิดฉากมารศาสนาอีกราย.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th