เกิดเหตุยิงกันในร้านคาร์แคร์ที่ อ.ท่ายาง เพชรบุรี เจ้าของร้านนั่งดื่มอยู่กับญาติ จู่ๆ มีคู่อริขี่รถบุกเข้ามาชักปืนยิงใส่ 2 นัด อีกฝ่ายใช้ 11 มม.ยิงโต้ ส่วนน้องชายคว้าท่อนเหล็กฟาดหัวมือปืนล้มคว่ำ ผลเจ้าของร้านตาย อริบาดเจ็บ ตำรวจตามไปอายัดตัวที่รพ.
เวลา 22.30 น. วันที่ 24 พ.ย. ร.ต.อ.เดชาพล บุญเติมนิติกุล รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่ายาง ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนถูกอาวุธปืนและถูกทำร้ายด้วยของแข็งได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่หมู่บ้านหนองแฟบ หมู่ที่ 5 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วันชาติ ม่วงศรี ผกก.ทราบ แล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุภายในร้านคาร์แคร์ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน กวพ 877 เพชรบุรี ล้มอยู่ด้านหน้า เข้าไปในร้านประมาณ 4 เมตร พบขวดเบียร์วางอยู่บนโต๊ะ ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกซองและซองปืนวางอยู่บนเก้าอี้ ตรวจสอบบริเวณพื้นด้านล่าง พบรอยเลือดเป็นจำนวนมาก และปลอกกระสุนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 5 ปลอก
นอกจากนั้นห่างออกไปประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 2 ปลอก ท่อนเหล็กขนาดความยาว 1 เมตร ตกอยู่ในกอหญ้า ส่วนผู้บาดเจ็บ 3 คน มีนายจิตดิลก เรืองทิพย์ อายุ 40 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง แพทย์ฉุกเฉินต้องช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ นายจิตดิลก ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วน นายนิชาญ ตระกุดทอง อายุ 40 ปี มือปืน ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณศีรษะจากการถูกของแข็ง นำตัวส่งต่อที่ รพ.พระจอมเกล้า ผู้บาดเจ็บอีกรายคือ นายศราวุฒิ อินทร์ประสิทธิ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเเขนและลำตัว
สอบถาม นางภัทรนันท์ เรืองทิพย์ อายุ 40 ปี ภรรยาของนายจิตดิลก ผู้ตาย เผยว่า ก่อนเกิดเหตุสามีและนายศราวุฒิ ซึ่งเป็นญาติสนิทกัน กำลังนั่งดื่มเบียร์กันอยู่ในร้านคาร์แคร์ ส่วนตนนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน สักพักได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามา มี นายนิชาญ เป็นผู้ขับขี่ จากนั้น นายนิชาญ จอดรถแล้วชักอาวุธปืนเดินอ้อมมาด้านหลัง แล้วยิงใส่นายจิตดิลก ทำท่าจะวิ่งหนี แต่นายจิตดิลกได้ชักอาวุธปืนขนาด 11 มม. ออกมายิงสกัด 5 นัด แต่ไม่ถูก ทำให้นายศราวุฒิที่อยู่ในเหตุการณ์คว้าท่อนเหล็กวิ่งไล่แล้วกระหน่ำตีศีรษะของนายนิชาญ จนล้มลงตรงกอหญ้า แล้วตะโกนเรียกให้ นายสุวรรณ เฮงบุญมี และ นายศุภกร ยินดี เข้ามาช่วยจับตัว
...
เบื้องต้น ร้อยเวร สภ.ท่ายาง ได้ทำการอายัดตัว และจะสอบสวนนายวิชาญ ถึงสาเหตุของการก่อเหตุ หลังอาการดีขึ้น