หนุ่มเร่ขายพวงมาลัยเลี้ยงปากท้อง 4 ชีวิต สุดรันทดอาศัยไร้บ้าน นอนกลางดินกินกลางทรายใช้ผ้าใบคลุมกันแดดฝนเลี้ยงลูก 2 คนอยู่ในป่าที่อุทัยธานี วอนสังคมเห็นใจหาที่อยู่เพื่อเด็กได้เรียนหนังสือ
เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2563 ผู้สื่อข่าวได้ไปพบครอบครัวชีวิตสุดรันทด ตามที่มีคนแจ้งเข้ามาว่า พบครอบครัวหนึ่งใช้ชีวิตเร่ร่อนเพราะไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง จึงได้พบพบกับนายสวัสดิ์ สมอนาค อายุ 50 ปี ชาวบ้าน หมู่ 10 ตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และนางบัวษร ใจแสง อายุ 42 ปี ชาวบ้าน หมู่ 12 บ้านประชารัตน์ ตำบลหนองมะโมง อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท
นายสวัสดิ์ กล่าวถึงเรื่องราวชีวิตที่เร่ร่อนให้ฟังว่า เดิมทีนั้นได้ขายพวงมาลัยอยู่แถวๆ ข้างทาง ในอำเภอหนองฉาง แห่งนี้มานานนับ 8 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นก็สร้างเพิงพักข้างทางไว้ เพื่อขายพวงมาลัยแต่ได้ถูกแม่ค้าขายผลไม้ที่อยู่ข้างๆ รื้อเพิงพักออก ก็จึงมาอยู่ในป่า บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านหนองมะกอก ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี โดยเป็นที่ของหลวง
โดยทางผู้ใหญ่บ้าน และกำนันในพื้นที่นั้น ให้อยู่อาศัยเป็นที่พักพิงชั่วคราว โดยใช้ผ้าใบหรือผ้าไวนิล โฆษณาสินค้ามากางเป็นที่หลบแดดและฝน เอาผ้ามาปูแทนการนอนกับดิน และใช้เศษไม้นั้นมาเป็นที่แขวนหรือตากผ้า เวลาหุงหาอาหารก็ต้องอยู่แบบกลางแจ้ง เวลาขับถ่ายก็ต้องอาศัยห้องน้ำบ้านข้างเคียงรวมถึงอาศัยไฟฟ้าในเวลากลางคืนอีกด้วย โดยเรียกว่าใช้ชีวิตแบบนอนกลางดินกินกลางทรายอย่างแท้จริง และมาอาศัยนอนในป่ากลางหมู่บ้านดังกล่าวมา 4 คืนแล้ว อีกทั้งมีรถสามล้อที่ยังคงผ่อนไม่หมด ติดค้างยอดไว้จำนวน 10,000 บาท เป็นรถที่ใช้ขายพวงมาลัย และใช้ขนย้ายของเวลาที่ต้องเร่ร่อนและย้ายที่นอน
...
เดิมทีนั้น นายสวัสดิ์ นั้นเป็นคนพื้นเพที่จังหวัดกำแพงเพชร แต่สาเหตุที่มาอยู่ที่ อำเภอหนองฉาง นั้นก็เพราะว่าได้มีครอบครัวกับนางบัวษรและมีลูกด้วยกันสองคน จึงมาอาศัยขายพวงมาลัยอยู่ข้างทางบ้างตามงานวัดต่างๆ บ้างมีรายได้เพียงได้ประทังชีวิตไปวันๆ โดยลูกชายคนโตนั้นอายุ 4 ขวบ และลูกสาวนั้นวัยเพียง 1 ขวบกว่า
ด้าน นางบัวษร ผู้เป็นเมีย กล่าวอ้างว่า ก่อนหน้านั้นมีที่ดินอยู่ประมาณ 3 แปลงอยู่ที่ อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท แต่ผู้เป็นลุงแท้ๆของตัวเองบังคับให้โอนชื่อที่ดินผืนนั้นเป็นชื่อลุง แต่นางบัวษร นั้นไม่ยอมทำตามและเกิดการทะเลาะกัน และได้ย้ายชื่อของนางบัวศรออกจากทะเบียนบ้านไป จึงจำเป็นต้องมาต้องมาใช้ชีวิตแร่ร่อนขายพวงมาลัยกับนายสวัสดิ์ อาศัยอยู่ในป่าบ้างอาศัยนอนอยู่ในศาลารอรถบ้าง หรือหากจำเป็นจริงๆ ก็อาศัยนอนตามวัด ทั้งนี้ใช้ชีวิตวนเวียนแบบเร่ร่อนแบบนี้ใน อ.หนองฉาง มา 8 ปีแล้ว
ทั้งสองผัวเมียนั้นวอนขอให้สังคมเห็นใจ หากจะมีผู้ใจบุญนั้นให้ที่ดินไว้ปลูกกระท่อมเล็กๆ ไว้ให้อาศัยพอหลับนอนก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง และหากเห็นใจอยากโอนเงินมาช่วยเหลือ ในการเลี้ยงดูลูกชายและลูกสาวที่กำลังเติบโต แต่ยังไม่ได้เข้าโรงเรียนเพราะต้องเร่ร่อนตามพ่อกับแม่ ได้ที่เลขบัญชี ธนาคารกรุงไทย นางสาวบัวษร ใจแสน เลขที่บัญชี 985-2-65614-7 เพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้.