เสี่ยฟาร์มโคนมถูกคนร้ายบุกอุ้มขึ้นรถตอนตี 4 ตกเย็นพบเป็นศพถูกยิงตายในป่ายูคาลิปตัสริมเขา ก่อนตำรวจตามรวบตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย และเชื่อว่ามีผู้ร่วมมืออีกหลายคน
ที่จังหวัดสระบุรี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วสันต์ ลำดวน รอง สว.(สอบสวน) สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ได้รับแจ้งเหตุจาก นางหนูกร มีทองขาว อายุ 50 ปี อยู่ ต.ชับสนุ่น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ว่า เมื่อช่วงตี 4 มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถมาที่บ้านของน้องชายตนคือ นายอดุลย์ มีทองขาว อายุ 39 ปี เจ้าของฟาร์มโคนม จากนั้นคนร้ายน่าจะอุ้มน้องชายตนขึ้นรถไป โดยที่ห้องนอนของน้องชายมีรอยการต่อสู้และกองเลือดตกในห้องนอนและหน้าบ้าน เกรงว่าน้องชายตนอาจได้รับอันตรายขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยตรวจสอบและตามหา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวขนาดใหญ่ สร้างในพื้นที่ร่วม 3 ไร่ ด้านหลังเป็นฟาร์มเลี้ยงโคนม ตั้งอยู่ใน ต.ชับสนุ่น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจในห้องนอนพบว่ามีข้าวของกระจายเกลื่อน ที่พื้นปูนมีรอยคราบเลือดตกอยู่ 1 กอง และด้านหน้าบ้านพบคราบเลือดตกอยู่อีก 1 กอง ที่บานเกล็ดกระจกข้างประตูมีรอยถูกงัดกระจกออก ส่วนที่พื้นดินหน้าบ้านมีร่องรอยรถวิ่งเป็นทาง เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และจะเร่งออกติดตามตัว นายอดุลย์ มีทองขาว อายุ 39 ปี ที่หายตัวไป
...
นางหนูกร ซึ่งอยู่บ้านใกล้กับนายอดุลย์ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกจ้างเลี้ยงวัวชาวกัมพูชามาบอกตนว่าให้มาทำกับข้าวให้ที่บ้าน เพราะเถ้าแก่ หรือ นายอดุลย์ ไม่อยู่ ออกไปแต่ตี 4 โดยไม่แน่ใจว่าออกไปกับเพื่อนหรือไม่ ลูกจ้างยังบอกอีกว่า เมื่อคืนได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ จึงออกมาดูและพบรถเก๋งสีดำวิ่งออกไป ไม่ทราบว่าเป็นรถใคร เมื่อได้ยินดังนั้น นางหนูกร จึงรีบมาดูที่ห้องของนายอดุลย์พบประตูเปิดอ้าและในห้องมีของกระจายเกลื่อนคล้ายถูกรื้อ และมีรอยเลือด จึงแจ้งตำรวจ
ต่อมาในเวลาประมาณ 17.00 น. ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก ได้รับแจ้งจากวิทยุสายตรวจตู้ยามหนองย่างเสือ หมู่ที่ 8 ต.หนองย่างเสือ ว่า มีคนหาของป่าพบศพคนถูกฆ่าตาย เป็นชายไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีเทานอนตายในป่ายูคาลิปตัสริมเขา เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่าข้างป่ามีถนนลูกรังรถสามารถวิ่งเข้ามาได้ เมื่อเข้าไปในป่าราว 10 เมตร เจ้าหน้าที่ก็พบศพชายไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีเทา นอนหงายหน้า ที่บริเวณขมับซ้ายมีรอยถูกกระสุนปืนยิงทะลุขมับขวา ที่ศีรษะมีรอยแตกเป็นแผลฉกรรจ์ ตรวจในตัวไม่พบหลักฐานระบุตัวตน
จากนั้นตำรวจจึงประสานกับนางหนูกรให้มาที่เกิดเหตุ กระทั่งนางหนูกรและญาติเห็นศพก็ร้องไห้โฮ พร้อมบอกว่าศพที่พบคือน้องชาย หรือนายอดุลย์ที่หายตัวไปนั่นเอง ตำรวจจึงนำศพกลับมาที่ สภ.มวกเหล็ก เพื่อจะนำศพส่งโรงพยาบาลแพทย์องครักษ์นครนายกต่อไปเพื่อตรวจสาเหตุแน่ชัดอีกครั้ง
ในเวลาต่อมา 18.00 น. พ.ต.ท.ครรชิต จันทเลิศ รอง ผกก.สส. พร้อมชุดสืบสวน สภ.มวกเหล็ก ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยคือ นายมนูญ หลัดดี อายุ 44 ปี ซึ่งมีอาชีพเลี้ยงโคนม โดยบ้านอยู่ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 800 เมตร มาสอบสวนที่ สภ.มวกเหล็ก เบื้องต้นนายมนูญไม่ยอมรับสภาพ จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบเค้นอย่างหนักจนยอมรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ลงมืออุ้มฆ่านายอดุลย์ เพราะที่ผ่านมาเคยมีปัญหาส่วนตัวกับผู้ตาย
นายมนูญเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนนั่งดื่มสุราที่บ้านคนเดียว จากนั้นก็ขับรถเก๋งโตโยต้า อัลติส ทะเบียน สห 5953 กรุงเทพมหานคร สีดำ ของตนไปหาผู้ตายที่บ้านเพื่อเจรเจาปัญหาส่วนตัว โดยงัดบานกระจกออก จากนั้นบุกเข้าไปหาในห้อง แต่เกิดการชกต่อยกัน ตนจึงใช้ไม้ตีหัวผู้ตายจนสลบก่อนจะลากขึ้นรถไปทิ้งในป่าที่พบศพ โดยก่อนทิ้งตนได้ใช้ปืนยาวซึ่งตนนำมาด้วย ยิงนายอดุลย์อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตาย จากนั้นจึงขับรถกลับมาที่บ้านแล้วทำงานตามปกติ จนกระทั้งตำรวจมาจับกุมตัวพร้อมด้วยปืนยาวของกลางซึ่งเป็นปืนเถื่อนและรถที่ก่อเหตุ
...
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ วิเชียรสรรค์ รอง ผบก.สระบุรี รักษาการแทน ผกก.มวกเหล็ก เผยว่า จากคดีนี้ตนเองในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อแน่นนอนว่าตัวคนร้ายจะกระทำการคนเดียว เนื่องจากคำรับสารภาพของผู้ก่อเหตุนั้นไม่มีน้ำหนักให้เชื่อได้ เพราะคนตายก็มีรูปร่างใหญ่ จึงคาดว่าอาจจะมีผู้ร่วมมือมากกว่า 3 คน อย่างไรตามเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนสาเหตุ และหาตัวผู้กระทำความผิดเพิ่มอย่างแน่นอน.