ผลประเมินจิตใจนักเรียนถูกครูทําร้าย 4 รายกรีดร้องผวา แฉเด็กปวดฉี่-จับแก้ผ้า

ผู้ปกครองพาลูกไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และสหวิชาชีพที่อัยการจังหวัดนนทบุรี หลัง “ครูคาร์บู” สอนดนตรีสากลตีเด็กนักเรียนชั้น ป.2 ยกห้อง เป็นโรงเรียนเดียวกับครูจุ๋ม ส่วนทนายแจ้งความกับ “ครูแพรว” เพิ่มอีก 1 ข้อหา กระทำอนาจารเด็ก ทีมสหวิชาชีพอึ้งประเมินสภาพจิตใจเด็ก 4 คนจาก 7 ครอบครัวมีพฤติกรรมกรีดร้อง หวาดผวา ระดมทีมนักจิตวิทยาดูแลอย่างใกล้ชิด พม.หนุนตรวจสภาพจิตคนทำงานกับเด็ก ขณะที่ “วิษณุ” เตือนครูอย่าทำเกินเลยเหมือนในอดีต

ภายหลังกระทรวงศึกษาธิการทำบันทึกร่วมกับผู้บริหาร ร.ร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรีเยียวยาคืนค่าเทอมและค่าธรรมเนียมอื่นๆให้กับนักเรียนอนุบาลทุกคนในห้อง “ครูจุ๋ม” น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง พี่เลี้ยงประจำชั้นอนุบาล 1 ทำร้ายร่างกายเด็ก รวมทั้งห้องอื่นๆที่ถูกกระทำลักษณะเดียวกัน ส่วนทางด้านคดีผู้ปกครองเข้าแจ้งความกับครูจุ๋ม และนายมาวิน ลิวานัก โอเรล่า ครูสอนภาษาชาวฟิลิปปินส์ ที่ก่อเหตุร่วมกับครูจุ๋ม ทั้งคู่ถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นและทารุณเด็ก นอกจากนี้ ยังมี ครูอีกหลายคนที่ทำร้ายเด็กผู้ปกครองต่างทยอยเข้าแจ้งความแล้ว ขณะที่นายพิสุทธิ์ ยงค์กมล ลูกชายเจ้าของโรงเรียนออกมายอมรับผิด พร้อมช่วยเหลือเด็กและผู้ปกครองอย่างเร่งด่วน

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์รวม 6 คน ที่ถูกนายสุทธิพร หรือครูคาร์บู วงษ์ขวัญเมือง อายุ 18 ปี ครูสอนดนตรีสากล ลงโทษเด็กใช้ด้ามที่ตักขยะพลาสติกตีที่มือเด็กนักเรียนทั้งห้องจนด้ามหัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ภายหลังผู้ปกครองทราบเรื่องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับครูคาร์บูที่ สภ.ชัยพฤกษ์ โดยวันนี้พนักงานสอบสวนนัดผู้ปกครองให้พาเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายมาให้ปากคำต่อหน้าพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีดังกล่าวแล้ว

ด้านนายบี 1 ในพ่อเด็กเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนนัดให้พาลูกมาพบพนักงานอัยการพร้อมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เพื่อทำการสอบปากคำเด็กถึงเหตุการณ์ที่ถูกครูคาร์บูทำร้ายในห้องเรียน ส่วนตัวมองว่าคดีนี้ยังถือว่าดำเนินการช้าอยู่พอสมควร เพราะเรื่องเกิดมา 1 เดือนกว่าแล้ว หลังเกิดเรื่องทางโรงเรียนเข้ามาขอโทษและพยายามเจรจาไกล่เกลี่ย ไม่อยากให้ตกเป็นข่าวเกรงว่าเรื่องบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ ทางโรงเรียนมีข้อเสนอว่าจะให้เด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายเรียนพิเศษฟรีเป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ยังให้กินไอศกรีมฟรีและให้ดูการ์ตูน แต่ไม่ใช่จุดประสงค์ที่ผู้ปกครองต้องการ และไม่ตรงประเด็นในการแก้ปัญหา เพราะผู้ปกครองต้องการให้ครูคาร์บูหยุดอาชีพการเป็นครู ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับอาชีพครูอีกเลย เพราะจิตวิญญาณในการเป็นครูไม่มี

นายบีเปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเรื่องกลุ่มผู้ปกครองไปตรวจสอบประวัติครูคาร์บูกับทางโรงเรียนพบว่าไม่มีใบอนุญาตในการสอน เเต่เป็นศิษย์เก่าที่เพิ่งจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ไม่นาน ทางโรงเรียนให้เหตุผลกับผู้ปกครองว่า สงสารครูคาร์บูเนื่องจากแม่ป่วยและเป็นศิษย์เก่าจึงรับเข้ามาเป็นครูช่วยสอนดนตรี ทำให้พวกตนรู้สึกไม่พอใจที่โรงเรียนรับคนที่ไม่มีจรรยาบรรณ และไม่ได้จบอาชีพครูมาสอน แล้วยังมาทำร้ายเด็กแบบไม่มีเหตุผล ไม่ใช่เป็นการตีเพื่อสั่งสอน แต่เป็นการตีแบบบันดาลโทสะ มันเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองทุกคนรับไม่ได้ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ขณะที่นายอัครพงษ์ บุญมี ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้บริหารโรงเรียนมาพูดว่า ผู้ปกครองออกมาเรียกร้องเพราะต้องการเงิน ถือเป็นการดูถูกพวกเราอย่างมาก ทั้งที่โรงเรียนอยู่ด้วยค่าเทอมผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามพวกเรายังยืนยันอยากให้ห้องเรียนมีกล้องวงจรปิด ส่วนตัวมองอาจไม่จำเป็นต้องดูได้แบบเรียลไทม์ แต่อย่างน้อยต้องมีหากผู้ปกครองสงสัยอยากดู

ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กลุ่มผู้ปกครอง 150 คน ติดต่อขอเข้าพบผู้บริหารของโรงเรียนเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในห้องเรียน ตรวจสอบว่าครูประจำห้องรวมทั้งครูพี่เลี้ยงจะมีพฤติกรรมการกระทำรุนแรงกับเด็กแบบโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์หรือไม่ เบื้องต้นพบว่าทางโรงเรียนยังไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ตั้งข้อเรียกร้องใน 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้ทางโรงเรียนติดกล้องวงจรปิดภายในห้องเรียนทุกห้องและทุกระดับชั้น 2.อยากให้ปรับปรุงบุคลากรทุกคนไม่ว่าจะเป็นคุณครู ครูพี่เลี้ยง หรือผู้ดูแลทั้งหมด และ 3.ให้มีนักจิตวิทยามาประจำที่โรงเรียน

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความ ยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนายณรงค์ ศรีฟ้า อายุ 32 ปี พ่อของเด็กอนุบาล 1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ประสิทธิ์ คงนายศ สว. (สอบสวน) สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พร้อมหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มกับ น.ส.แพรวนภา หรือครูแพรว ศรีพุทธ อายุ 33 ปี เป็นครูพี่เลี้ยงประจำห้องในเรื่องกระทำอนาจารกับเด็กอีก 1 ข้อหา หลังจากแจ้งความดำเนินคดีทำร้ายร่างกายไปก่อนแล้ว

นายรณณรงค์เปิดเผยว่า เห็นคลิปที่ครูแพรวจับเด็กนักเรียนชายเป็นลูกของนายณรงค์ ขณะเด็กปวดปัสสาวะถอดเสื้อผ้าล่อนจ้อนกลางห้องเรียน เมื่อวันที่ 21 ก.ย. เป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่ควรจะเกิดขึ้นกลางห้องเรียน ทั้งที่มีทั้งครูพี่เลี้ยงคนอื่นและเด็กอีกหลายคนอยู่ในห้อง ครูพี่เลี้ยงควรจะพาเด็กไปถอดเสื้อผ้าในห้องน้ำเป็นที่ลับตาจะเหมาะสมกว่า

ที่โรงแรมแมนดาริน ในเวทีเสวนา “ทางออก... เมื่อโรงเรียนไม่ปลอดภัยและเด็กถูกทำร้าย” จัดโดยมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา ร่วมกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และเจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” กล่าวว่า สัญญาณที่บ่งบอกว่าเด็กถูกคุกคามหรืออยู่ในสภาวะที่ไม่ปลอดภัย จากเด็กที่เคยร่าเริง เด็กอาจจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงเช่น ก้าวร้าวขึ้น หลีกหนีไม่อยากไปโรงเรียน หลบตาไม่กล้า รู้สึกกลัว ซึมเศร้า เหมือนไม่มีความสุข การที่เด็กถูกบ่มเพาะความรุนแรงเหล่านี้จะพัฒนาไปสู่การกระทำความรุนแรงต่อ ทั้งนี้ สิทธิการเรียนในสถานที่ปลอดภัย เป็นสิทธิพื้นฐานที่เด็กทุกคนควรได้รับ

ด้าน น.ส.อรพินท์ ศักดิ์เอี่ยม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเด็ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ พม.ในพื้นที่และเครือข่ายเข้าไปดูแลเด็ก นักจิตวิทยาประเมินสภาพจิตใจเด็กและผู้ปกครอง โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ประชุมคณะอนุกรรมการสหวิชาชีพจังหวัด มีรอง ผวจ.นนทบุรี เป็นประธาน เบื้องต้นแบ่งเป็น 4 กลุ่มได้แก่ 1.กลุ่มที่วิกฤติได้รับผลกระทบโดยตรงและผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดี 2.กลุ่มเด็กและผู้ปกครองที่อยู่ในห้องเดียวกัน 3.กลุ่มเด็กและผู้ปกครองที่อยู่ในสายชั้นเดียวกัน และ 4.กลุ่มเด็กและผู้ปกครองที่อยู่ชั้นอื่นๆ หลังประเมินสภาพจิตใจแล้วจะทำแผนบำบัด โดย เฉพาะกลุ่มที่ต้องเข้าไปดูแลฟื้นฟูเร่งด่วน จะมีแผน บำบัดต่อเนื่องระยะยาว

น.ส.อรพินท์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ มีการประเมิน สภาพจิตใจไปแล้ว 7 ครอบครัวจาก 12 ครอบครัวที่สมัครใจเข้าร่วม พบเด็ก 4 รายเป็นชาย 2 หญิง 2 ที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง มีพฤติกรรมกรีดร้อง หวาดกลัว ผวาบ้าง ทำให้ทีมสหวิชาชีพตกใจ ไม่คาดคิดว่าเด็กจะมีอาการขนาดนี้ เตรียมส่งทีมนักจิตวิทยาในพื้นที่ทั้งของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงของ พม. ตำรวจ และเขตพื้นที่การศึกษาเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงผู้ปกครองบางรายที่มีอาการเครียดอย่างมาก อาจต้องใช้เวลาบำบัดพอสมควร อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของ พม.ต้องการผลักดันให้คนที่ทำงานกับเด็กควรตรวจสภาพจิตทุกคน

ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ว่า ศธ.เดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ลงพื้นที่ติดตามแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ทราบว่าขณะนี้ ศธ.มีการทำบันทึกความร่วมมือการแก้ไขปัญหาร่วมกับโรงเรียนสารสาสน์แล้ว ถือว่ามาตรการข้อสรุปต่างๆที่ออกมามีความเหมาะสม เพราะโรงเรียนพร้อมที่จะปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานทั้งระบบ เพื่อทำให้การศึกษาเอกชนมีการพัฒนาที่ดีขึ้น

ส่วนกรณีผู้ก่อตั้งโรงเรียนในเครือสารสาสน์ พูดถึงประเด็นการผ่อนผันต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู คุรุสภากำหนดเงื่อนให้ขอผ่อนผันการต่อใบอนุญาตฯได้ถึง 8 ปี มองว่าจะเป็นช่องว่างของคุรุสภาที่ต้องปรับปรุงหรือไม่ รมว.ศึกษาธิการกล่าวว่า ตนคุยเรื่องดังกล่าวกับคุรุสภาแล้ว เห็นด้วยที่ ศธ.จะกลับมาทบทวนช่องโหว่เหล่านั้นและปรับปรุงแก้ไขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้การมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมีมาตรฐานในอนาคต

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ทำร้ายเด็กว่า กรณีนี้ทำให้ตนคิดได้ว่า สถานการณ์ในปัจจุบันอะไรที่รู้สึกว่าเคยทำ จะยังทำได้ต่อไป อะไรที่สอนกันมาว่าเป็นจารีตประเพณี วันนี้ต้องระมัดระวังว่าอย่าให้เกินเลย มีหลายเรื่องไม่ใช่แค่เพียงเด็กกับครูที่โรงเรียนสารสาสน์เท่านั้น ปัญหาระหว่างพ่อแม่กับลูก สามารถตีลูกได้ขนาดไหน วันหนึ่งอาจเป็นปัญหา หรือปัญหาระหว่างสามีภรรยา ปัญหารุ่นพี่กับรุ่นน้อง ปัญหาผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา ปัญหานายจ้างกับลูกจ้าง ปัญหาพระกับเด็กวัด สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เคยทำกันมาได้ในอดีต แต่นั่นเพราะในอดีตเขาเห็นว่ามันไม่เกินสมควรกว่าเหตุ วันนี้ไปยึดหลักว่าเคยทำได้ จึงทำได้ แต่วันนี้มันทำกันเกินสมควรแก่เหตุจะเป็นความผิดทั้งนั้น

นายวิษณุยังยกคำกลอนจากหนังสือมูลบทบรรพกิจของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ท่านนำมาจากกาพย์พระไชยสุริยาของสุนทรภู่อีกต่อหนึ่งความว่า “ระวังตัวกลัวครูหนูเอ๋ย ไม้เรียวเจียวเหวย กูเคยเข็ดหลาบขวาบเขวียว หันหวดปวดแสบแปลบเสียว หยิกซ้ำช้ำเขียว อย่าเที่ยวเล่นหลงจงจำ” เป็นสุภาษิตสอนให้เด็กท่องเพื่อให้สะกดเป็นคำที่เขียนยาก แสดงให้เห็นว่าไม้เรียวตีเด็กได้ แต่วันนี้ลองใช้ไม้เรียวตีเด็กจะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อถามว่า กรณีนี้จะโยงไปถึงการให้มีการปฏิรูปการศึกษาได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ทั้งหมดทุกเรื่อง ตอนนี้เราต้องระวังทั้งหมด อะไรที่ไม่เคยผิดมันอาจจะผิด ไม่ใช่แค่การปฏิรูปการศึกษา แต่ต้องปฏิรูปสังคม ปฏิรูปความรู้สึกนึกคิดให้รู้สึกในเรื่องหลักนิติธรรม ในเรื่องธรรมาภิบาลและเรื่องการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เมื่อถามว่ากรณีนี้จะจบอย่างไร รองนายกฯกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ต้องดูกันต่อไป แต่ขอบคุณมากที่เรื่องนี้กระทรวงศึกษาธิการเข้าไปได้เร็ว และเป็นคนกลางได้เป็นอย่างดี ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สถิตพร บุณรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส. และชุดพนักงานสอบสวนและทีมสืบสวน ภ.จ.นนทบุรี ประชุมความคืบหน้าคดีครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จากนั้น พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวว่า การดำเนินคดีที่เกี่ยวกับทางโรงเรียน ตำรวจประสานงานไปยังทางเลขาคุรุสภาให้มาร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับทางโรงเรียนในวันที่ 2 ต.ค. ส่วนการดำเนินคดีกับครูที่ก่อเหตุเบื้องต้นมี 8-9 คน แต่สั่งฟ้องดำเนินคดีไปแล้ว 2 คน ส่วนครูที่เหลืออยู่ระหว่างการเชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป