สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน สานความร่วมมือโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข "สระบุรีโมเดล" เดินหน้าขับเคลื่อนเพื่อสร้างความสุขให้พี่น้องประชาชน
เมื่อวันที่ 15 ก.ย.63 ที่วัดพระพุทธแสงธรรม ต.หนองนาก อ.หนองแค จ.สระบุรี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข โดยมี พระเทพสังวรญาณ พระธรรมปิฎก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี วัดพระพุทธบาท พระสุนทรธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธแสงธรรม คณะสงฆ์ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผวจ.สระบุรี ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นางสาวพัชรา สุคันธี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสระบุรี ร่วมการประชุมฯ
โอกาสนี้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ได้กล่าวสัมโมทนียกถาความว่า โครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข เป็นหนึ่งในโครงการฯ ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จากแนวคิดที่ว่า วิถีดั้งเดิมของคนไทยมีวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นเสาหลักในการพัฒนาคนในชุมชนให้มีคุณภาพทั้งด้านสุขภาพกายสุขภาพใจ วัดจึงถือเป็นสถานที่สำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทย เป็นศูนย์กลางของประชาชน เป็นศูนย์กลางของชุมชน การดำเนินโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข มีตัวอย่างการดำเนินการให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม เช่น จังหวัดปทุมธานี และ จ.ลพบุรี สามารถดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องด้วยการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม เป็นการเสียสละเพื่อส่วนรวมด้วยความทุ่มเท จึงจะประสบผลสำเร็จอย่างแท้จริง บรรลุตามวัตถุประสงค์
...
โครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข เป็นการขับเคลื่อนแบบบูรณาการ วัด + ประชา + รัฐ = สร้างสังคมแห่งความสุข วัด ทำหน้าที่เป็นเสาหลัก สร้างความรับผิดชอบของครัวเรือน ให้ยึดหลักธรรมในการดำเนินชีวิต สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในชุมชน ประชา คือ ประชาชน ชุมชน ในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบชุมชน รัฐ คือ ส่วนราชการ ภาครัฐ มีส่วนในการขับเคลื่อนนโยบาย โครงการ และรวมถึงนำประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสังคมแห่งความสุข สามารถบูรณาการขับเคลื่อนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ร่วมกันคิด ร่วมกันทำทั้ง 3 ฝ่าย เชื่อมั่นว่าประชาชนในประเทศจะมีความสุข อันเป็นการส่งเสริมสร้างสังคมแห่งความสุขอย่างแท้จริงและยั่งยืน ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ โครงการหมู่บ้านรักษาศีลห้า การอบรมประชาชนประจำตำบลจากคณะสงฆ์ และโครงการโคก หนอง นา โมเดล ซึ่งโครงการที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในพื้นที่ อันสามารถบูรณาการขับเคลื่อนร่วมกับโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข ก่อให้เกิดเป็นสังคมแห่งความพอเพียง ประชาชนมีความสุข เป็นสังคมแห่งการแบ่งปันสิ่งดีๆ มีภูมิคุ้มกันจากปัญหาต่างๆ ทำให้ประชาชนอยู่ด้วยความพอเพียง สามารถพึ่งตนเองได้ อยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม เป็นวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคมไทย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนได้ร่วมประชุมและบรรยายเรื่อง "ความร่วมมือ กรมการพัฒนาชุมชน กับ โครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข" ใจความว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่สร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น ในการขับเคลื่อนการเสริมสร้างสังคมแห่งความสุข ให้คนทั้งชาติ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถบูรณาการการดำเนินการร่วมกับโครงการ โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการบูรณาการสืบสานพระราชปณิธาน และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงพระราชทานโครงการฯ ดั่งพระบรมราชโองการ เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป
นอกจากนี้ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มนักโทษในเรือนจำดำเนินโครงการ โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง หลักสูตร 14 วัน เป็นการน้อมนำความรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ทั้งการบริหารจัดการที่ดิน การห่มดิน การบริหารจัดการน้ำ คลองไส้ไก่ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง นำไปปรับใช้ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสร้างความสุขอย่างความยั่งยืน หลังจากพ้นโทษจากเรือนจำ.