ป.จับคาปั๊มน้ำมัน “อารีอาคาน” ผู้กว้างขวางจังหวัดเพชรบูรณ์ โกงเงินค่านายหน้าซื้อที่ดิน ตามหมายจับศาลแขวงสระบุรี ปี 62 หลังผู้เสียหายเข้าร้องกองปราบฯคดีไม่คืบ เผยประวัติชอบแอบอ้างสนิทสนมตำรวจใหญ่เมืองมะขามหวาน อีกทั้งเคยถูกกองปราบฯ บุกจับพร้อมปืน 2 กระบอกเมื่อปี 58 หลังทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล
ป.จับหนสอง “อารีอาคาน” มาเฟียเมืองมะขามหวานโกงเงินค่านายหน้าซื้อขายที่ดิน เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.พิเชฐ จันทร์ขำ พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ พ.ต.ท.ภัทรพล ปัทมวงศ์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ต.กฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.กก.สนับสนุน ปรท.สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายอารีอาคาน ปาทาน อายุ 56 ปี ตามหมายจับศาลแขวงสระบุรี ลงวันที่ 11 ก.ค.62 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น จับได้ที่ปั๊มน้ำมัน ถนนสระบุรี-หล่มสัก ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
สืบเนื่องจากกองปราบปรามได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับนายอารีอาคานทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลใน จ.เพชรบูรณ์ ที่ผ่านมาไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยไหนเข้าไปตรวจสอบอย่างจริงจัง เนื่องจากชอบแอบอ้างรู้จักตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายรายใน จ.เพชรบูรณ์ หลังรับเรื่อง พล.ต.ต.จิรภพมอบหมาย พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป.รับเรื่องไว้เป็นข้อมูลพร้อมสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของ นายอารีอาคานตลอดเวลา
ต่อมามีผู้เสียหายใน จ.สระบุรี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมของนายอารีอาคาน เข้ามาพบให้ข้อมูลว่า ถูกนายอารีอาคานโกงเงินไป 1 แสนกว่าบาท จากการเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดินประมาณ 68 ไร่ แจ้งความไว้ที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ศาลได้อนุมัติหมายจับนายอารีอาคานไว้ แต่เรื่องเงียบหายและยังไม่สามารถจับกุมได้ ตัดสินใจร้องขอให้ตำรวจกองปราบฯช่วยจับกุมดำเนินคดี กระทั่ง กก.1 บก.ป.สืบสวนจนทราบว่านายอารีอาคาน
มาประกอบธุรกิจและพักอาศัยอยู่ที่ ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จึงตามจับกุมไว้ได้ สอบสวนให้การรับสารภาพ นำตัวส่ง สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ดำเนินคดี
...
สำหรับนายอารีอาคาน เมื่อปี 2558 เคยถูก พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3 ขณะดำรงตำแหน่งผู้การกองปราบฯ และ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น.ขณะเป็น ผกก.4 บก.ป นำกำลังกวาดล้างตรวจค้นผู้มีอิทธิพลใน จ.เพชรบูรณ์ พร้อมจับกุมนายอารีอาคาน พร้อมปืน 9 มม. และ ขนาด .38 อย่างละ 1 กระบอกและเครื่องกระสุนปืน หลังแนวทางการสืบสวนพบว่ามีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลใน จ.เพชรบูรณ์