ทันตแพทย์หนุ่ม 26 ปี เพิ่งบรรจุทำงาน รพ.ไทรโยค กาญจนบุรีได้ปีเดียว ขับรถเก๋งชนท้ายรถ 6 ล้อบรรทุกไม้ไผ่ ขณะไต่ขึ้นเนินชัน รถเละ คนคอขาดคาที่
เวลา 22.00 น. วันที่ 12 ก.ค. พ.ต.ท.ชาญณรงค์ ไทยสุวรรณ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อใหญ่บรรทุกไม้ไผ่ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนเส้น 323 กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ บริเวณหน้าโรงเรียนสมเด็จพระปิยมหาราชฯ หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระปิยมหาราชฯ
ที่เกิดเหตุ เส้นทางฝั่งขาเข้าเขต อ.ไทรโยค พบรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเทา-ดำ ทะเบียน 3 กพ 6997 กทม. จอดอยู่บนถนนในสภาพพังเสียหายทั้งคัน หลังคารถฉีกขาดหลุดออกจากตัวรถ ด้านหน้าตรงช่วงคนขับพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายวีรภัทร สุหฤทดำรง อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ตามบัตร 4202 ถ.ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ปัจจุบันรับราชการเป็นทันตแพทย์ประจำอยู่ รพ.สมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากรถเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตร และเนื่องจากสภาพภูมิประเทศถนนจุดเกิดเหตุเป็นเนินถนนช่วงยาวทางขึ้นไหล่ภูเขา ประกอบกับเส้นทางดังกล่าวมีเพียงไฟฟ้าตัดหมอกสีเหลือง จึงทำให้รถที่วิ่งสวนทางไปมาอาจมองไม่เห็น อาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้นได้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ปิดกั้นคอยให้สัญญาณการจราจร

...
เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเป็นทันตแพทย์ประจำอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระปิยมหาราชฯ เพิ่งบรรจุได้ 1 ปี ซึ่ง รพ.อยู่ห่างจากจุดเหตุไปประมาณ 50-60 เมตร ส่วนคู่กรณีเป็นรถบรรทุก 6 ล้อใหญ่ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 82-8896 กาญจนบุรี บรรทุกไม้ไผ่เต็มคันจอดอยู่ริมถนน ที่บริเวณท้ายกระบะบรรทุกมีร่องรอยการถูกพุ่งชน จึงทำการบันทึกภาพรถยนต์ทั้ง 2 คันไว้เป็นหลักฐาน และมอบศพให้มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์นำส่งไปให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้งที่ รพ.สมเด็จพระปิยมหาราชฯ

จากการสอบปากคำ นายสุชาติ สาลี อายุ 41 ปี ชาว อ.ทองผาภูมิ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังขับรถบรรทุกไม้ไผ่ไปส่งให้เพื่อนที่ว่าจ้างให้นำไม้ไผ่ไปปลูกกระต๊อบที่บ้านในตัวเมืองกาญจนบุรี โดยขับรถมาตามถนนสายดังกล่าว ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นถนนช่วงทางขึ้นเนินเขา ระหว่างที่ตนกำลังเปลี่ยนเกียร์รถเพื่อไต่ระดับขึ้นเนินสูงอยู่นั้น ได้ยินเสียงดังตูมที่บริเวณท้ายกระบะด้านหลัง จึงค่อยๆ ชะลอรถ เนื่องจากรถบรรทุกของหนัก การหยุดรถกะทันหันทำได้ยาก และเมื่อเดินไปดูก็พบว่ามีรถยนต์เก๋งวิ่งมาชนท้าย มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถ จึงโทรศัพท์แจ้ง 191 ซึ่งตำรวจจะได้สอบสวนอย่างละเอียดและหาหลักฐานประกอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.