ผู้ปกครองโร่ร้อง “ปวีณา” เด็กหญิงวัย 5 ขวบ 2 รายตกเป็นเหยื่อคนใกล้ชิดคุกคามทางเพศ รายแรกถูกพ่อเลี้ยงวัยโจ๋ใช้ไฟแช็กลนอวัยวะเพศและต้นขาจนเป็นแผลไหม้พุพองอ้างโมโหที่ปัสสาวะรดที่นอน อีกรายถูกทหารยศ จ.ส.อ.เพื่อนลุงบังคับถอดกางเกง ใช้นิ้วล่วงละเมิดพร้อมถ่ายคลิปลงแอปฯ “Tik Tok” ปวีณาประสานตำรวจทั้ง 2 ท้องที่ร่วมทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กก่อนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ต้องหา พร้อมฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด ระวังตกเป็นเหยื่อภัยสังคมโดยเฉพาะคนใกล้ตัว
ที่มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ก.ค. นายบอย (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี พา ด.ญ.เมย์ (นามสมมติ) ลูกสาววัย 5 ขวบ เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยติดตามคดีที่ลูกสาวถูกนายต้น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พ่อเลี้ยงใช้ไฟแช็กลนขาและอวัยวะเพศจนผิวหนังพุพองเป็นแผลหลายแห่ง
นายบอยเผยว่า แยกทางกับนางหญิง (นามสมมติ) อายุ 34 ปี แม่ของน้องเมย์ได้ประมาณ 1 ปีเศษ ตกลงกันว่า วันจันทร์-ศุกร์ลูกอยู่กับแม่ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะอยู่กับพ่อ ต่อมาอดีตภรรยามีสามีใหม่คือนายต้น อายุ 17 ปี อยู่กินกันที่บ้านนางหญิงใน อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี กระทั่งช่วงปลายเดือน พ.ค. ตนรับลูกมาอยู่ด้วยเห็นมีอาการผิดปกติซึมเศร้าไม่ร่าเริง ที่ผิวหนังบริเวณต้นขาหลังทั้งสองข้างและอวัยวะเพศมีแผลพุพองจากการถูกไฟลน ถามลูกไม่ยอมบอกว่าไปโดนอะไรมา คิดว่าลูกอาจจะเล่นซนก็ไม่ได้เอะใจ จากนั้นพาลูกไปส่งคืนแม่ ต่อมาวันที่ 5 มิ.ย. รับลูกมาดูแลอีกครั้ง พบว่ารอยแผลเดิมยังไม่หายและมีแผลใหม่เพิ่มอีก สอบถามอดีตภรรยาบอกว่า น้องเมย์ซุกซนไปนั่งทับยาจุดกันยุงจนเป็นแผล ตนคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ เค้นถามลูกสาวจนทราบว่าถูกนายต้น พ่อเลี้ยงใช้ไฟแช็กลนต้นขาและอวัยวะเพศตอนที่แม่ไม่อยู่ เพราะนายต้นโมโหที่น้องเมย์ปัสสาวะรดที่นอน และนายต้นยังข่มขู่ห้ามบอกใคร หลังทราบเรื่องพาลูกไปแจ้งความที่ สภ.ศรีประจันต์ ตำรวจส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้วแต่ยังไม่ได้ให้สหวิชาชีพสอบปากคำ
...
ต่อมานางปวีณา ประสานไปยัง พ.ต.อ.ภัคภณ เล็กท่าไม้ ผกก.สภ.ศรีประจันต์ สั่งการพนักงานสอบสวนประสานนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และอัยการ ร่วมทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็ก ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายเรียกนายต้น เข้ามาพบตำรวจ อยู่ระหว่างประสานสหวิชาชีพมาสอบปากคำนายต้นเพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดี พร้อมกันนี้นางปวีณายังประสานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก และให้พ่อเด็กฟ้องร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อขอปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
อีกราย น.ส.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร้องเรียนมูลนิธิปวีณาฯว่า เจอคลิป ด.ญ.เนย (นามสมมติ) ลูกสาววัย 5 ขวบ ในแอปพลิเคชัน “Tik Tok” ถูกทหารยศจ่าสิบเอกเพื่อนของพี่ชายล่วงละเมิดทางเพศแชร์ในโลกโซเชียล น.ส.เก๋ เผยว่า จ.ส.อ.เล็ก (นามสมมติ) อายุ 58 ปี อัดคลิปขณะลูกสาวนอนอยู่ในเปล บอกให้ดึงกางเกงจากเอวลงมาเปิดให้เห็นอวัยวะเพศและใช้นิ้วล่วงละเมิด ก่อนนำไปโพสต์ใน Tik Tok ที่ผ่านมาไม่รู้เรื่องมาก่อน เห็นว่าจ่าเล็กเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชาย ชอบแวะเวียนมาที่บ้านก็ไว้ใจให้เล่นกับลูกไม่คิดว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้ ทราบเรื่องเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ลูกชายวัย 8 ขวบเข้าไปเห็นใน Tik Tok มาบอกตนเปิดดูตกใจมาก พาลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ตำรวจส่งตัวไปตรวจร่างกายและ เรียกตัวจ่าเล็กมาสอบสวนก่อนจะปล่อยตัวไป ต่อมาจ่าเล็กมาขอเจรจาค่าเสียหาย แต่ตนไม่ยอม เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงมาร้องเรียนมูลนิธิปวีณาฯ
หลังรับเรื่องนางปวีณาประสาน พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา สั่งการพนักงานสอบสวนพร้อมทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็ก ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับจ่าสิบเอกผู้ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้ประสานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กต่อไป ทั้งนี้ นางปวีณากล่าวว่า ช่วงนี้เด็กเล็กตั้งแต่ 3 ขวบถึง 6 ขวบจะถูกกระทำโดยคนรู้จัก คนใกล้บ้าน และคนใกล้ชิด ฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองอย่าไว้วางใจคนใกล้ชิดแม้แต่เพื่อนสนิทคุ้นเคยกันก็ตาม อย่าปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียวหรือฝากไว้กับใครตามลำพัง มิฉะนั้นเด็กอาจจะตกเป็นเหยื่อของภัยสังคมโดยไม่คาดคิด