ตำรวจยันไม่ให้ประกันแก๊งญาติหื่นรุมข่มขืนเด็กหญิง 12 ปี เตรียมส่งฝากขังศาลพร้อมคัดค้านการขอประกันตัว แต่จะได้ประกันหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นผู้เยาว์อีก 2 คน อยู่ระหว่างการประสานกับผู้ปกครองพามาพบพนักงานสอบสวน ส่วนพ่อบุญธรรมหนูน้อยผู้เสียหายเผยรับดูแลเด็กตั้งแต่คลอดเพราะแม่มีอาการทางประสาท ตอนแรกไม่เชื่อถูกเครือญาติล่วงละเมิด กระทั่งตำรวจทำคดีถึงเชื่อ
จากเหตุสลดใจ ด.ญ.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุพรรณบุรี ถูกเครือญาติรุมข่มขืนมาราธอน 2 ปี พร้อมบังคับให้กินยาคุมกำเนิดไม่ให้ตั้งครรภ์ จนเรื่องแดงขึ้นเพราะ ด.ญ.ก้อยทนเจ็บปวดจากอาการมดลูกอักเสบไม่ไหว ขอให้พี่สาวพาไปรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยายมราช แพทย์พบว่าอาการบาดเจ็บเกิดจากถูกล่วงละเมิดทางเพศ ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองเด็กและสตรี จ.สุพรรณบุรี ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ร่วมสอบปากคำกระทั่งรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับเครือญาติ 7 คนโดยจับกุมได้แล้ว 5 คน คือนายพเยาว์ เรืองฤทธิ์ อายุ 52 ปี นายสุรัตน์ ภูฆัง อายุ 35 ปี นายทรงวุฒิ หรือโด้ หันกลาง อายุ 20 ปี นายอนันต์ นรินทร์นอก อายุ 52 ปี นายเชิน ปลายนายน อายุ 35 ปี อีก 2 คน เป็นเด็กชายอายุ 10 ปี และ 12 ปี
ความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดีแก๊งญาติหื่นรุมข่มขืนเด็กหญิง เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ร.ต.อ.กาฬสิน ปากวิเศษ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสุพรรณบุรี เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 5 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การต่อสู้ในชั้นศาล ทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปที่โรงพักยังไม่มีญาติมาติดต่อขอประกันตัว แต่ถ้ามาขอประกันตัวในชั้นสอบสวนจะไม่ให้ประกัน และจะนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรีในวันที่ 15 มิ.ย. พร้อมคัดค้านการขอประกันตัว แต่จะประกันตัวได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นผู้เยาว์ได้แจ้งผู้ปกครองเด็กไปแล้วรอติดต่อวันที่จะเข้ามาพบ
...
นางอุรัยวรรณ์ แสงแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า หลังทราบเรื่องเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ได้นำเจ้าหน้าที่ร่วมกับนายกเทศมนตรีตำบลบ้านโพธิ์ นักพัฒนาชุมชน และพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลและนำผู้ปกครองเด็กเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ต้องหาที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมทั้งรับเด็กไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อความปลอดภัยและเยียวยาสภาพจิตใจ ซึ่งเด็กมีอาการปกติไม่เครียด อย่างไรก็ตามต้องรอผู้เชี่ยวชาญประเมินสภาพจิตใจอีกครั้ง
ส่วนนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นค่อนข้างทำร้ายจิตใจสังคมเป็นอย่างยิ่ง ขอยืนยันว่าจังหวัดและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนที่กลัวว่าจะมีอิทธิพลหรือไม่นั้น คิดว่าไม่มี ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะคดีนี้เป็นที่สนใจของสังคม และเป็นการกระทำต่อเด็ก ซึ่งตนไม่ยอมเด็ดขาด คิดว่าเขาคงไม่สามารถที่จะมาทำอะไรผู้เสียหายได้เพราะอยู่ในความคุ้มครองดูแลของทางราชการ มีนักจิตวิทยาเข้าไปประเมินสุขภาพของเด็กตามกระบวนการเรียบร้อยแล้ว
ด้านนายกมล (นามสมมติ) พ่อบุญธรรมของ ด.ญ.ก้อย เปิดเผยว่า เลี้ยง ด.ญ.ก้อยมาตั้งแต่คลอด เนื่องจากแม่เขาดูแลไม่ได้เพราะมีอาการทางประสาท ตอนคลอดไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อด้วย ประกอบกับตนไม่มีลูกจึงรับเป็นบุตรบุญธรรมโดยให้ไปอยู่กับบ้านน้องสาวโดยส่งเสียให้เงินใช้มาตลอด ด.ญ.ก้อยเป็นเด็กร่าเริง ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง และตนไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับลูกบุญธรรมมากนัก ตอนแรกที่ทราบเรื่องยังไม่อยากเชื่อ กระทั่งตำรวจทำคดีถึงเชื่อ รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น