เสียดายพระนักพัฒนา ชาวบ้านยังไม่หายช็อก หลังกองปราบบุกจับ "อดีตเจ้าอาวาสวัดดัง" ขณะเสพกามเป็นชู้เมียชาวบ้านคากุฏิ ก่อนยอมรับตรงๆ แล้วถูกจับสึกทันที
จากกรณี "กองปราบ" จับ "เจ้าอาวาสหื่น" คากุฏิวัด พบกำลังนอนกกสาว หลังได้รับการร้องเรียนจึงส่งกำลังเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พบมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มั่วสีกา จึงเข้าจับกุมและให้สึกกับเจ้าคณะ โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเนื่องจากสามีเป็นผู้แจ้งเบาะแสกับตำรวจ หลังทราบข้อมูลจากลูกสาวที่ติดตามแม่ไปพบพระบ่อยครั้ง และเห็นภาพร่วมเพศกัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (จับเจ้าอาวาสวัดดังหื่น นอนกกสาวมั่วสีกาคากุฏิ นำตัวจับสึก)
ล่าสุด วันที่ 10 มิ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าวใน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบว่าวัดค่อนข้างเงียบเหงา มีพระสงฆ์จำวัด 2 รูป สามเณร 2 รูป จำวัดอยู่ที่วัด โดยที่สนามหญ้าในวัดมีลิงป่าเป็นร้อยตัวลงมาหาอาหารกินและวิ่งเล่น นอกจากนี้ ยังมีวัวกว่า 30 ตัวถูกปล่อยให้กินหญ้าอาหารในสนามหน้าศาลาการเปรียญที่มีห้องพักของ พระสรรเสริญ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี อดีตเจ้าอาวาสที่ถูกสึกไป โดยห้องพักถูกปิดล็อก ห้ามใครเข้าไปภายใน
...
ทางด้านพระที่ได้รับการสั่งการให้ดูแลวัดชั่วคราว เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 11.00 น. สีกาที่เกิดเรื่องมาที่วัดพร้อมลูกสาว ตำรวจพร้อมเจ้าคณะตำบล สำนักพุทธเข้าที่วัดประมาณ 12.00 น. จากนั้นก็นำไปสึก ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นคนในวัดไม่รู้เรื่อง อาตมาเพิ่งมาจำพรรษาที่นี่ได้ 2 เดือน และทางอดีตเจ้าอาวาสท่านก็เป็นพระผู้ใหญ่ที่ดูแลพัฒนาวัดดีมาก ตอนนี้กำลังจะเทปูนหน้าศาลากัน ส่วนวัวก็เป็นวัวที่คนมาถวายไถ่ชีวิตนำมาให้วัดเลี้ยง ตอนนี้ก็ยังต้องรอทางพระผู้ใหญ่ว่าจะจัดการอย่างไร
ขณะที่ ชาวบ้าน บ้านอยู่หน้าวัด เผยว่า ชาวบ้านช็อกกับข่าวที่เกิดขึ้น อดีตเจ้าอาวาสเป็นคนในหมู่บ้าน เห็นมาตั้งแต่เล็ก บวชเณรเป็นพระ บวชเรียนมาแล้วจนมาเป็นเจ้าอาวาส ท่านพัฒนาวัดที่บ้านเกิดให้เจริญพัฒนามาก มีคนมาทำบุญมากพอประมาณ ที่แรกทราบข่าวตนยังไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ แต่เขาว่ากันว่าเจ้าอาวาสสึกไปแล้ว รู้สึกเสียดายมาก แต่มันเป็นกรรมของใครของมัน
ส่วน ชาวบ้านอีกราย บ้านอยู่ใกล้วัดเช่นกัน เผยว่า ร้องไห้ตั้งแต่ทราบข่าว เนื่องจากท่านสร้างพัฒนาวัด จากไม่มีเมรุเผาผี ท่านสร้างเมรุ ท่านดูแลคนรอบวัด คนในหมู่บ้านรัก แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ มีคนเห็นว่า ผู้หญิงคนนั้นมาที่วัดตลอดเกือบ 2 ปี เหมือนกับผู้คนที่มาทำบุญสายบุญปกติ ไม่มีใครนึกว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เสียดายพระนักพัฒนามากๆ.