ตำรวจ บก.น.9 รวบตัว 4 ผู้ต้องหาแก๊งตุ๋นคนชราโทรศัพท์เข้าเบอร์บ้าน ออกอุบายลูกหลานถูกตำรวจจับให้รีบโอนเงินค่าประกันตัวหรือค่าเคลียร์คดีเข้าบัญชีที่ผู้ต้องหาเปิดรอรับ มีผู้สูงวัยแจ้งความไว้ที่ สน.หลักสอง สน.บางขุนเทียน 3 คน รวมความเสียหายกว่า 1.5 แสนบาท ตรวจสอบประวัติกลุ่มผู้ต้องหาล้วนโชกโชน ทุกคนมีหมายจับติดตัว คาดมีผู้สูงวัยตกเป็นเหยื่อกว่า25ราย

รวบแก๊งตุ๋นคนชรา เปิดเผยเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 พ.ต.อ. นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 นำกำลังชุดสืบสวน บก.น.9 จับกุมตัวนายเอนก เพ็งสระน้อย อายุ 34 ปี นายเชษฐไชย์ แซ่โค้ว อายุ 35 ปี น.ส.มนัสนันท์ ปิ่นวานิช อายุ 20 ปี และ น.ส.ณีรนุช จันขุน อายุ 20 ปี 4 ผู้ต้องหาพร้อมของกลาง สมุดบัญชีใช้ก่อเหตุ 2 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง จับกุมตัวผู้ต้องหารายแรกในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ก่อนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คนตามห้องพักละแวกถนนเอกชัย พื้นที่ สน.บางขุนเทียน

สืบเนื่องจากตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ค. มีผู้เสียหายเป็นชาย-หญิงสูงวัย รวม 3 ราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.หลักสองและ สน.บางขุนเทียน ว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้าเบอร์บ้าน แอบอ้างเป็นเพื่อนของบุตรหลานและเป็นคนรู้จักกับญาติพี่น้องของผู้เสียหาย ก่อนกุเรื่องกับผู้เสียหายทำนองบุตรหลานหรือญาติถูกตำรวจจับได้รับความเดือดร้อน ขอให้รีบโอนเงินค่าประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือค่าดำเนินการเพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดี ทำให้ผู้เสียหายทั้ง 3 รายซึ่งเป็นคนชราเกิดความตื่นตกใจยินยอมโอนเงินให้ กระทั่งทราบภายหลังว่าถูกหลอก พบมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 150,000 บาท ต่อมาชุดจับกุมสืบพบเบาะแสจากเส้นทางการโอนเงินเข้าบัญชี จึงขอศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด กระทั่งติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้

...

ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหากลุ่มนี้ พบนายเอนกมีหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นติดตัวถึง 7 หมายในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน สน.บุคคโล สน.ภาษีเจริญ สน.ห้วยขวาง สน.ดินแดง และศาลแขวงพระนครเหนือ ส่วนนายเชษฐไชย์ มีหมายจับคดีเดียวกันในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน 2 หมายจับ ขณะที่ น.ส.มนัสนันท์ และ น.ส.ณีรนุช มีหมายจับติดตัวในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน คนละ 1 หมายจับ เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ก่อนประสานตำรวจท้องที่อื่นมาอายัดตัว

พ.ต.อ.นครินทร์เปิดเผยว่าจากการสอบสวนพบกลุ่มผู้ต้องหาวางแผนเตรียมการเป็นอย่างดี โดยเลือกโทรศัพท์เข้าเบอร์โทรศัพท์บ้านที่สามารถตรวจสอบรายชื่อเจ้าของกิจการได้ตามสื่อโซเชียล เมื่อโทรศัพท์เข้าไปแล้วหากเจอผู้สูงวัยรับสายจะหลอกถามข้อมูล ก่อนสร้างสถานการณ์ว่าบุตรหลานหรือญาติพี่น้องถูกตำรวจจับได้รับความเดือดร้อน ขอให้รีบโอนเงินค่าประกันตัว ถ้าไม่อยากให้ตำรวจนำตัวเข้าห้องขัง ตรวจสอบยอดบัญชีที่ใช้รอรับเงินผู้เสียหายโอนเงินเข้ามา พบมีเงินหมุนเวียนในเดือน เม.ย.-พ.ค. กว่า 800,000 บาท เชื่อมีผู้เสียหายอีกราว 20-25 ราย ส่วนชื่อบัญชีที่ใช้เป็นของ น.ส.มนัสนันท์ นายเชษฐไชย์ และ น.ส.ณีรนุช ประชา– สัมพันธ์ผู้เสียหายรายอื่นให้รีบแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อประสานมาที่ สน.บางขุนเทียนดำเนินการอายัดตัวตามขั้นตอน