ผัวโหดบุกมาตามง้อเมียถึงบ้านเพื่อให้กลับไปอยู่ด้วยไม่สำเร็จ ชักปืน.22 ยิงแม่ยายที่เข้ามาขัดขวางล้มหงาย ก่อนเปลี่ยนกระสุนชุดใหม่แล้วตามไปยิงเมียล้มคว่ำ นึกว่าทั้งคู่ตาย จึงวิ่งออกมาหน้าบ้าน ตัดสินใจยิงตัวเองดับ
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 พ.ค.63 ร.ต.ท.ณัฐพล นิธิพัฒน์โรจน์ รอง สว.สอบสวน สภ.นครชัยศรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดภายในสวนดอกรัก ซอย 2 หมู่ 5 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศราวุทธ สุทธวิชัย ผกก.สภ.นครชัยศรี ชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี แพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยพลู เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7
ที่เกิดเหตุพบศพ นายสุวัฒน์ วังมะนาว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ 23 ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ที่พื้นริมถนนลูกรังทางเข้าบ้านห่างจากบ้าน 80 เมตร สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน สวมทับด้วยเสื้อคลุมลายทหารสีเขียว สวมกางเกงขาสั้นสีแดง จากการตรวจสอบบาดแผลพบว่าถูกปืนลูกโม่ขนาด .22 ยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย ในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธปืนรีวอลเวอร์ขนาด .22 ตกอยู่ข้างศพ มีกระสุนปืนที่ยิงไปแล้ว 2 นัด และที่ยังไม่ยิงอีก 6 นัดอยู่ในลูกโม่ และพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ตามพื้นตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงในบ้านอีก 6 ปลอก ที่ยิงไปแล้ว 4 ปลอก ที่ยังมีหวกระสุนอีก 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่พุ่มไม้ใกล้หน้าบ้านยังพบรถ จยย.ฮอนด้า สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน ของผู้ตายจอดอยู่
จากการตรวจสอบยังพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย เป็นหญิง ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน ชาวบ้านและมูลนิธิช่วยกันนำร่างส่ง รพ.ห้วยพลู อ.นครชัยศรี ทราบชื่อ น.ส.อรณัชชา ชินรัมย์ อายุ 25 ปี เป็นอดีตแฟนของนายสุวัฒน์ มือปืนที่เสียชีวิต อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 2 ต.ไผ่ใหญ่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่กลางหน้าอก 1 นัด และ น.ส.บรรจง พูลชาติ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 2 ต.ไผ่ใหญ่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.อรณัชชา ได้รับบาดเจ็บถูกลูกหลงกระสุนปืนยิงเข้าที่กระพุ้งแก้มขวา ทั้งสองถูกนำส่งโรงพยาบาล แพทย์ทำการผ่าตัดช่วยเหลือ
...
ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า ก่อนเกิดเหตุนายสุวัฒน์ มือปืนซึ่งเป็นอดีตแฟนของ น.ส.อรณัชชา ได้ขี่รถ จยย.มาวนเวียนที่บ้านเกิดเหตุหลายรอบ และถามหา น.ส.อรณัชชาแฟนเก่า แต่ไม่เจอ เจอแต่ น.ส.บรรจง ผู้เป็นแม่ และบอกว่าบุตรสาวไม่อยู่ ไปทำงาน ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร นายสุวัฒน์ มือปืนจึงออกมาจากบ้านแล้วขี่ จยย.วนเวียนอยู่แถวบ้าน จนกระทั่งตอนเที่ยง น.ส.อรณัชชา ได้กลับมาที่บ้านพักเที่ยง นายสุวัฒน์ จึงย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ น.ส.อรณัชชา เห็นนายสุวัฒน์ก็วิ่งหนีเข้าไปหลบในบ้าน นายสุวัฒน์จึงจอดรถและเข้าไปเพื่อที่จะไปคุย แต่ถูก น.ส.บรรจง ผู้เป็นแม่เข้ามาขวางไม่ให้เข้าไปในบ้าน แต่นายสุวัฒน์ไม่ฟังจะเข้าไปขอคืนดีกับ น.ส.อรณัชชา แต่ฝ่ายหญิงตะโกนออกมาว่าไม่เอา จะไม่ขอกลับไปอยู่ด้วย นายสุวัฒน์ซึ่งพกปืนเหน็บเอวมาด้วย เมื่อถูกนางบรรจงขวางพยายามรั้งตัวไว้ เลยโมโหชักปืนออกมายิงเข้าที่กระพุ้งแก้มล้มคว่ำลงไปแล้วปืนยังลั่นไปอีก 1 นัด แล้วยิงซ้ำอีก แต่กระสุนปืนด้าน เลยเทลูกปืนออกจากโม่ และบรรจุกระสุนเข้าไปใหม่ เดินเข้าไปในห้อง เมื่อเข้าไปได้ก็ยิงใส่ น.ส.อรณัชชา ที่หน้าอกอีก 1 นัดล้มคว่ำไป โดยนึกว่า น.ส.อรณัชชา ตาย เลยวิ่งออกมานอกบ้าน ห่างจากบ้าน 80 เมตร ตัดสินใจยิงตัวเองตาย ตร.จึงบันทึกปากคำไว้
จากการสืบสวนของตำรวจทราบว่า น.ส.อรณัชชา เป็นสาวหน้าตาดี มีชายหนุ่มมาติดพันอยู่หลายคน ซึ่งนายสุวัฒน์ก็เป็น 1 ในจำนวนนี้ และเคยอยู่กินกับ น.ส.อรณัชชา มาแล้วประมาณ 1 ปี ที่ อ.กำแพงแสน บ้านฝ่ายชาย กระทั่งมาเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา น.ส.อรณัชชา เริ่มตีตัวออกห่างแอบหนีออกมาทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งใกล้สวนดอกรัก ที่ น.ส.บรรจง ผู้เป็นแม่เช่าที่ทำอยู่ ทำให้นายสุวัฒน์ออกตามหาตัวเรื่อยมา จนทราบว่าแอบมาอยู่กับแม่ จึงขี่ จยย.มาตรวจสอบที่บ้านได้ 2 วัน เมื่อแน่ใจว่า น.ส.อรณัชชา มาอยู่ที่บ้านจริง วันนี้เลยเอาปืนพกติดตัวมาด้วย หวังมาเจรจาให้คืนดี และขอให้กลับไปอยู่ด้วยกัน แต่ก็ถูกขัดขวางเลยใช้อาวุธปืนตัดสิน ยิงทั้งแม่และลูกสาว และใช้อาวุธปืนตัดสินยิงตัวเองหวังตายตาม โดยตำรวจเตรียมสอบทั้งแม่และ น.ส.อรณัชชา แฟนสาวที่ยังอยู่ในห้องไอซียู เพื่อสรุปผลการสอบสวน.