หนุ่มก่อสร้างขับรถกระบะหลุดโค้งบนถนนย่านพระประแดง กวาดรถจักรยานยนต์หลายคัน มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เสียชีวิต 1 ศพ ตำรวจตามจับได้ทันควัน แจ้งข้อหาหนัก

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ร.ต.อ.วิทยา นามทอง รอง สว.สอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ก่อนจะขับหลบหนีไป จึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุบริเวณปากซอยเพรชหึงษ์ 10 ถ.เพรชหึงษ์ หมู่ที่ 2 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พบรถจักรยานยนต์ 2 คันล้มกับพื้น สภาพพังยับเยิน คันแรกเป็นจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ125i สีเทา หมายเลขทะเบียน 9กธ 6251 กทม ส่วนคันที่ 2 เป็นจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 8กส 434 กทม ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย รายแรกทราบชื่อคือ นายนาวี แข็งแรง อายุ 36 ปี อยู่ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.เร่งปฐมพยาบาล และนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 3

ส่วนรายที่ 2 เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 35-40 ปี ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าของรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ แต่ไม่สำเร็จ ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากนั้นตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบรถคันก่อเหตุเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีไป จอดยู่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม. เจ้าหน้าที่จึงเร่งเดินทางไปที่จุดดังกล่าว ก็พบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า ไม่ทราบรุ่น หมายเลขทะเบียน บบ 9814 สุราษฎร์ธานี และพบ นายนิเวช สดแช่ม อายุ 36 ปี อยู่ ต.ทรายแดง อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปที่ สภ.แจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และไม่หยุดให้การช่วยเหลือตามสมควร ไม่แสดงตัว ไม่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทราบ

...

เมื่อสอบถาม นางสุทธิณี ภักดีนอก อายุ 24 ปี พลเมืองดีผู้แจ้งเหตุได้ความว่า ตนเองกับแฟนหนุ่มกำลังเดินทางกลับเข้าบ้าน เมื่อขี่จักรยานยนต์มาถึงจุดเกิดเหตุ ได้เห็นรถกระบะคันก่อเหตุขับมาอย่างเร็ว และชนกับจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันเข้าอย่างจัง แต่คนขับกระบะกลับไม่มีการจอดดูแล้วขับรถหลบหนีไป ตนเองและแฟนหนุ่มจึงตัดสินใจขับรถตามไป แต่ก็ตามไม่ทัน จนกระทั่งจะวนกลับมาดูคนเจ็บ ก็เหลือบไปเห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ตนเองจึงบอกแฟนหนุ่มให้ขับไปใกล้ๆ เพื่อดูทะเบียนรถ ก็พบว่าเป็นรถคันเดียวกับที่ก่อเหตุแล้วหลบหนีมา จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และจับกุมตัวไว้ได้