งานศพ "น.ส.ปรายฝน" หญิงสาววัย 19 ปี ที่วาดภาพนายกรัฐมนตรี พร้อมโพสต์ข้อความสุดรันทด ตัดพ้อทำไมใจดำ ก่อนไปผูกคอตาย พบแฟนใหม่เป็นคนเบิกเงิน 5 พันไปใช้ เลยไม่รู้ว่าเงินเยียวยาเข้าบัญชีแล้ว เผยมีชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นเจ้าภาพสวดศพ คืน 1 พ.ค.
จากกรณี นางสาวปรายฝน สาววัย 19 ปี ได้วาดรูป พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความว่า "รูปนี้วาดด้วยน้ำตา เสียใจร้องไห้ที่ไม่เหลือเงินให้ลูกซื้อนมกิน ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง แต่ไม่มีเงินเหลือ ยุคนี้คือยุคที่รู้สึกว่ารัฐบาลใจร้ายมาก ทำคนดีๆ สติแตก ขนาดมีงานทำนะ ยังไม่มีเหลือเลย ทั้งเหนื่อยทั้งท้อเลยรู้ป่ะ ทำไมใจดำเหลือเกิน ทำไมไม่สงสารคนที่เค้าไม่มีบ้าง ท้อสุดใจเลย" ก่อนตัดสินใจผูคอตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ที่ห้องพักย่านเพชรเกษม กทม.
วันที่ 30 เม.ย. ที่วัดแสนภูดาษ ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา สถานที่จัดงานศพ น.ส.ปรายฝน วันนี้ได้ปรากฏชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามจาก น้าของผู้ตาย เผยว่านายคงกฤช หงษ์วิไล อดีต ส.ส. ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาที่งานศพ เมื่อช่วงบ่ายและเป็นผู้มาเขียนชื่อ ก่อนเปิดเผยว่า มาในนามของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โดยนำพวงหรีดมามอบให้ รวมถึงเงินช่วยเหลือและสิ่งของจำนวนหนึ่ง พร้อมยืนยันว่า การใช้ชื่อนายทักษิณ ไม่ได้ต้องการให้เป็นเรื่องการเมือง แต่เพราะเวลาอย่างนี้ ทุกคนต้องช่วยเหลือกัน เชื่อว่าจะไม่มีใครมองเป็นประเด็นการเมือง โดยวันที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเจ้าภาพ จะมอบหมายบุคคลในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มาเป็นตัวแทนร่วมในงานศพ
...
ขณะเดียวกัน ได้มี น.ส.เบญจารัตน์ แสนตุ้ย ฝ่ายบัญชีของบริษัทรักษาความปลอดภัยฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่ น.ส.ปรายฝน ทำงานอยู่ ได้เดินทางมามอบพวงหรีดและป็นเจ้าภาพงานศพ เปิดเผยว่า น.ส.ปรายฝน ได้เข้าทำงานวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 อยู่ในช่วงทดลองงานยังไม่ผ่านโปร โดยเงินเดือนจะออกทุกวันที่ 1 กับวันที่ 16 ซึ่งวันที่เงินเดือนออก ยอดเงินของ น.ส.ปรายฝน มียอด 5,064 บาท แต่เพราะน้องไม่มีบัญชีธนาคารโดยตรงกับบริษัท ทำให้ต้องเลื่อนการจ่ายแล้วเงินจะเข้าบัญชีในวันที่ 20 เม.ย. แทน ซึ่งทางบริษัทยังต้องหักค่าชุดอีก 300 บาท และน้องก็ยังไม่มีสิทธิประกันสังคม
ด้านนายวิชัย อายุ 29 ปี แฟนใหม่ของผู้ตายที่เพิ่งเดินทางมาร่วมงานศพเป็นวันแรก บอกว่า ตนเพิ่งคบกับ น.ส.ปรายฝนได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น และเผยเรื่องเงิน 5,000 บาทที่น้องได้จากรัฐบาลในวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมานั้นเป็นความจริง แต่ในเรื่องเงินเดือน 5,00 0 กว่าบาทที่เข้าวันที่ 20 นั้น ตนไม่รู้เรื่อง แต่น้องน่าจะเข้าใจผิด เพราะน้องเห็นสลิปเงินของวันที่ 16 ก่อน เลยอาจทำให้เข้าใจผิด
เมื่อถามสาเหตุที่แฟนสาวคิดสั้น นายวิชัย กล่าวว่า น้องปรายฝนอยากจะตามตนไปทำงานด้วย ไม่อยากอยู่คนเดียว และช่วงหลังเมื่อโทรศัพท์กลับไปก็มักจะร้องไห้ด้วย
ด้าน น้าของผู้ตาย เผยหลังจากไปสอบถามเรื่องเงินเดือนจากนายวิชัย จนสุดท้ายก็ทราบความจริงว่า หลานสาว ไม่น่าจะรู้ว่าตนเองได้เงิน 5,000 บาทจากรัฐบาล และคิดว่าเป็นเงินเดือนที่ได้จากทางบริษัท ซึ่งพอถามว่าเงินก้อนแรกหายไปไหน นายวิชัยก็ตอบว่าได้นำเงิน 4,000 บาท ไปจ่ายค่ารถจักรยานยนต์ ส่วนอีก 1,000 บาท ได้เก็บไว้ซื้อของกินของใช้ ส่วนเงินเดือนของ น.ส.ปรายฝนอีก 5,064 บาทที่เข้าวันที่ 20 เมษายน ทำไมน้องถึงไม่รู้ เพราะน้องโพสต์เฟชบุ๊กวันที่ 22 เมษายน พร้อมภาพวาดนายกรัฐมนตรีในเชิงตัดพ้อ เหมือนตัวเองไม่มีเงินพอใช้ทั้งๆ ที่น่าจะมีเงินเหลือใช้อีก 5,000 บาทด้วยซ้ำ พอถามไปนายวิชัยก็ตอบว่าเห็นน้องปรายฝนโอนมาให้ตา 3,000 บาท แต่พอสอบถามกับแม่ของน้องปรายฝน พบว่าคนที่โอนมาเป็นนายวิชัย โดยโอนเงินมาเพียง 2,000 บาทเท่านั้น ทำให้ไม่รู้ว่าตัวหลานสาวมีความเป็นอยู่เช่นไร แล้วใครเป็นคนถือบัตรเอทีเอ็ม โดยญาติก็มารู้ทีหลังว่านายวิชัยนั้น ทำงานคนละบริษัทกับน้องปรายฝน จึงเชื่อว่าหลานสาวน่าจะเครียดเรื่องเงินไม่พอใช้ และไม่มีโอนมาให้ที่บ้านอีก แต่หลานสาวตายไปแล้วก็พูดไม่ได้ จะให้ไปเคาะโลงศพถามหาความจริงก็ไม่ได้แล้ว แต่หลังจบงานศพก็จะรีบไปดูสำนวนการสอบสวนของตำรวจที่ กทม. เพราะอยากรู้คำให้การของนายวิชัย ว่าให้การกับตำรวจอย่างไรหลังเกิดเหตุ
ขณะเดียวกัน นายพร ตาของ น.ส.ปรายฝน ซึ่งยังอยู่ในอาการเสียใจ เฝ้ามองรูปหลานสาวที่หน้าโลงศพอยู่คนเดียวไม่ไปไหน นายพร บอกว่า ตอนนี้กำลังใจดีขึ้นมาก เพราะยังมีความห่วงใยจากทุกคนทั่วประเทศที่ส่งกันเข้ามาตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเงินบริจาค นมให้กับเหลน ต้องขอขอบคุณทุกคนจากใจจริงๆ ซึ่งตอนนี้เช็กเงินในบัญชีของตาเมื่อเช้า มีเงินเข้ามาประมาณ 20,000 บาท เท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอที่จะซื้อนมให้เหลนกินแล้ว ส่วนหลายคนที่คอมเมนต์ว่า ครอบครัวเอาเหลนมาขอรับบริจาคเงินหรือไม่ ก็บอกผ่านตรงนี้เลยว่า ไม่ได้เอาหลานมาหากิน ไม่บริจาคไม่เป็นไร ตากับยาย สัญญาจะเลี้ยงเหลนให้ดีที่สุด
...
นายพร ยังบอกอีกว่า เมื่อวานขณะกำลังจะนำศพหลานใส่โลงศพ มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามา บอกว่า สนใจอยากจะขอซื้อภาพวาดเหมือน นายกฯ ที่หลานสาววาด ในราคา 1 ล้านบาท จะขอซื้อให้ได้ แต่ก็ปฏิเสธไป บอกว่า ไม่มีภาพนั้น ถึงมีก็ไม่ขายหรอก