สุพรรณบุรี พบผู้ป่วยรายที่ 3 และ 4 พร้อมกัน เป็นหญิงอายุ 51 ปี และชายไทยอายุ 34 ปี โดยทั้งคู่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ป่วยรายที่ 2 ที่กลับมาจากภูเก็ต พบไทม์ไลน์เดินทางไปหลายสถานที่ ทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต ร่วมแห่ขันหมาก ยังเปิดร้านข้าวแกง ขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้าน


วันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.สุพรรณบุรี ได้ประกาศยืนยันพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 รายเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 2 ของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ได้เดินทางกลับมาจากจังหวัดภูเก็ต แล้วตรวจพบเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้ป่วยที่พบเพิ่ม รายแรกเป็นหญิงไทย อายุ 51 ปี อีกรายเป็นชายไทยอายุ 34 ปี

ทั้งนี้ หลังจาก ผู้ป่วยรายที่ 2 ได้รับผลตรวจสอบยืนยัน เจ้าหน้าที่จึงทำการแจ้ง และสั่งกักตัวผู้ใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูง จากนั้นได้มีติดตาม กระทั่งได้รับการตรวจจนพบว่ามี 2 ราย ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา โควิด-19 แต่จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ ก่อนหน้าที่จะยืนยันผู้ป่วยรายที่ 2 พบมีการเดินทางไปหลากหลายสถานที่ทั้งในร้านขายสินค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ ตลาดนัด เดินทางไปติดต่อสำนักงานการไฟฟ้าอู่ทอง สำนักงานขนส่งจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงมีการร่วมแห่ขันหมากงานแต่งงาน และยังเปิดร้านขายข้าวแกง ขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้านอีกด้วย

จากหนังสือประกาศของศูนย์ปฏิบัติการ COVID 19 จังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้ป่วยที่ตรวจพบในจังหวัดสุพรรณบุรี รวม 4 คน รักษาหายแล้ว 1 คน ส่วนอีก 3 คน ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยทางจังหวัดได้เร่งตรวจสอบไทม์ไลน์ ของผู้ป่วยที่พบใหม่ของ 2 คน ซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 2 ที่ยังรักษาตัวอยู่ ดังนี้ รายที่ 3 หญิงไทย อายุ 51 ปี วันที่ 18 มี.ค. ได้นั่งคุยและรับประทานอาหารกับผู้ป่วยรายที่ 2 วันที่ 19 หรือ 20 มี.ค.(ไม่ทราบแน่ชัด) ตอน 19.00 น.ไปที่ร้านอลังการ อ.อู่ทอง และ 20.00 น. ได้ไปซื้อของสดที่โลตัสอู่ทอง วันที่ 21 มี.ค. 06.00-11.00 น. ไปร่วมงานแห่ขันหมาก ที่บ้านหนองโดก ต.พลับพลาไชย และ 13.00 น. กลับมาทำงานที่สวนกล้วย ต.จรเข้สามพัน วันที่ 22 มี.ค. ทำงานที่สวนกล้วย ต.จรเข้สามพัน ทั้งวัน วันที่ 23 มี.ค. เวลา 08.00 น. ไปเจาะเลือดที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 อ.สองพี่น้อง เวลา 09.00-11.00 น. ได้มาต่อทะเบียนรถที่ขนส่ง จ.สุพรรณบุรี และเวลา 19.00 น. ไปคลินิกชลธิชา ต.จรเข้สามพัน

...

ส่วนผู้ป่วยรายที่ 4 เป็นชายไทย อายุ 34 ปี วันที่ 18 มี.ค. เวลา 13.10 น. ไปรับผู้ป่วยรายที่ 2 ที่สนามบินดอนเมือง 15.30 น.เดินทางไปตลาดต้นไม้ บางใหญ่ จ.นนทบุรี และช่วงเวลา 16.30 น. ไปร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ ริมถนน 340 ใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท. จ.นนทบุรี และเวลา 18.30 น. เดินทางกลับถึงบ้านพัก ใน อ.อู่ทอง จากนั้นวันที่ 19-20 มี.ค. ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน เวลา 04.00 น. ไปซื้อของสดในตลาดอู่ทอง เวลา 05.00-08.00 น. ขายข้าวแกงหน้าโดม หมู่ที่ 14 และมีบริการรับส่งตามบ้าน เวลา 08.00-22.00 น. ขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้าน วันที่ 21 มี.ค. เวลา 11.00 น. เดินทางไปตลาดอู่ทอง ไปซื้อของที่ ร้านดี (ขายอุปกรณ์เบเกอรี่) จากนั้นเวลา 13.40 น. ไปร้านขายเต็นท์ ที่ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุพรรณบุรี และกลับบ้านพัก เวลา 17.00 น. เดินทางไปตลาดนัดจรเข้สามพัน อ.อู่ทอง วันที่ 27 มี.ค. เวลา 11.00 น. ไปจ่ายค่าไฟที่สำนักงานการไฟฟ้าอู่ทอง และหลังจากผู้ป่วยรายที่ 2 ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 ในวันที่ 27 มี.ค. ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ก็ได้รับการกักตัวเพราะเป็นผู้ที่สัมผัสมีความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายที่ 2 จนมาตรวจพบเชื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ. ได้ออกคำสั่งประกาศให้ อ.อู่ทอง เป็นพื้นที่เสี่ยง ที่จำเป็นจะต้องยกระดับมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เข้มข้นขึ้น หลังจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อมาทั้ง 4 คนที่พบ มาจาก อ.อู่ทอง ทุกคน

ที่ประชุมจึงมีมติให้กำหนดมาตรการ เพื่อให้มีการปฏิบัติเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากคำสั่งจังหวัดสุพรรณบุรีที่ 1329/2563 ลงวันที่ 3 เมษายน 2563 ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 โดยคำสั่งฉบับเพิ่มเติมจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 1330/2563 เป็นคำสั่งเฉพาะอำเภออู่ทองที่มีมาตรการเข้มข้น ดังนี้

1.ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท
2.สถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด รวมถึงร้านค้า แผงลอย รถเข็น แผงผลไม้ หรือสถานประกอบการอื่นในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นการจำหน่ายเพื่อนำกลับไปรับประทานในที่พักเท่านั้น ห้ามจัดให้มีสถานที่นั่งรับประทานโดยเด็ดขาด
3.ให้ปิดตลาดนัดและสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกันทุกแห่ง
4.ห้ามมิให้มีการจัดเลี้ยงในงานบวช งานมงคลสมรส งานพิธีการศพ งานบุญทางศาสนา การไหว้บรรพบุรุษ (เช็งเม้ง) และงานประเพณีทุกชนิด

สำหรับการปฏิบัติในการจัดงานดังกล่าวให้ถือปฏิบัติตามประกาศกระทรวงวัฒนธรรมเรื่องแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาลประเพณีพิธีทางศาสนาและพิธีการต่าง ๆ ลงวันที่ 1 เมษายน 2563 อย่างเคร่งครัด.