ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม ออกประกาศสู้ "โควิด-19" สกัดการแพร่ระบาด สั่งปิดตลาด ยกเว้นที่จำหน่ายของสด-แห้ง สินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ รวมทั้งอาหารเครื่องดื่ม นำกลับไปกินที่บ้าน พร้อมสั่งร้านค้า-ร้านสะดวกซื้อ เปิด-ปิดเป็นเวลา ตั้งแต่ 21.00-03.00 น.ขีดเส้นเริ่ม 2 เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 1 เมย.63 ที่ จ.สมุทรสงคราม นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ประกาศเนื่องด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิค-19 เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีคำสั่งปิดตลาดหรือตลาดนัด ยกเว้นส่วนที่จำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ อาหารสัตว์เวชภัณฑ์ และสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ส่วนร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านเครื่องดื่ม ที่ตั้งอยู่ทุกสถานที่ ให้เปิดบริการได้เฉพาะการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น ยกเว้นที่เปิดให้บริการในโรงพยาบาล หรือในโรงแรมที่ให้บริหารเฉพาะผู้พักอาศัยเท่านั้น
ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม กล่าวต่อว่า ส่วนสถานที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลาด หรือสถานที่อื่นคล้ายคลึงกัน ให้เริ่มเปิดปิดระหว่างเวลา 21.00-03.00 น.ของวันถัดไป (2 เม.ย.) ยกเว้นที่เปิดให้บริการในโรงพยาบาล ส่วนสถานที่ที่มีการจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ให้เปิดได้เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอื่นเท่านั้น
ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม กล่าวต่อว่า สำหรับสถานที่ที่มีข้อยกเว้นได้บางส่วน ตามข้อ (2) จะต้องมีมาตรการป้องกันโรคดังนี้ ให้ทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ก่อนการจัดกิจกรรมและกำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน โดยให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมกิจกรรม ลูกจ้าง และผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ให้บุคคลตามข้อ (2) ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค บุคคลตามข้อ (2) เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน อย่างน้อย 1 เมตร เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัสหรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรม ไม่ให้แออัดหรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยยึดถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกันในระหว่างดำเนินการ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และมาตรการเร่งด่วนเชิงพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ตามประกาศ จ.สมุทรสงคราม ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
...
"หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง อาจมีความผิดตามมาตรา 56 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อนึ่งเนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนินนานช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ดังนั้นจึงไม่อาจให้คู่กรณีที่ได้รับผลกระทบ จากคำสั่งทางปกครองนี้ใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค (1) แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ได้ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย.นี้ สั่ง ณ วันที่ 1 เม.ย.63 ลงนามโดย นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสมุทรสงคราม" ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม กล่าว