โครงการบางระกำโมเดล ปรับเปลี่ยนการทำนาปีในพื้นที่ทุ่งบางระกำให้เร็วขึ้น ยังคงเดินหน้าต่อเป็นปีที่ 4...แต่ปีนี้จะลดพื้นที่ลงจาก 382,000 ไร่ เหลือ 265,000 ไร่ เท่ากับปีแรกของโครงการ
เนื่องจากภาวะฝนแล้งในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ทำให้น้ำที่ต้องจัดสรรมาให้เกษตรกรทำนาก่อนฤดูมีจำนวนจำกัด ถึงกระนั้น ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ให้คำมั่น กรมชลประทานจะจัดสรรน้ำมาให้เกษตรกรในพื้นที่ทุ่งบางระกำได้ทำนาทันตามเวลาแน่นอน โดยจะเริ่มจัดสรรน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน รวมกัน 310 ล้าน ลบ.ม. ส่งมาให้พื้นที่โครงการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-31 กรกฎาคมนี้
ขณะนี้เขื่อนทั้ง 2 แห่งมีปริมาณน้ำที่ใช้งานได้รวมกันเหลืออยู่ประมาณ 1,600 ล้าน ลบ.ม.
โครงการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากพื้นที่ลุ่มน้ำยม เป็นเพียงลุ่มน้ำเดียวของลุ่มน้ำสาขาลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ยังไม่มีเขื่อนขนาดใหญ่เก็บกักน้ำ ทำให้ฤดูน้ำหลากเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำยม ดังนั้น ระหว่างที่รอโครงการชลประทานขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รัฐบาลจึงได้จัดทำโครงการบางระกำโมเดลขึ้นมาเมื่อปี 2560
โดยการปรับเปลี่ยนปฏิทินใหม่ในการทำนาปีของทุ่งบางระกำให้เร็วขึ้นกว่าปกติ เพื่อให้ชาวนาสามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ก่อนถึงฤดูน้ำหลาก นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องข้าวถูกน้ำท่วม ยังทำให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เพราะหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ยังสามารถใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแก้มลิงธรรมชาติ รองรับน้ำในฤดูน้ำหลาก เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดสุโขทัย ตลอดจนเป็นการหน่วงน้ำรอการระบายไม่ให้เกิดผลกระทบกับลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างอีกด้วย และโครงการนี้ยังจะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากการทำอาชีพประมงอีกด้วย
...
รวมทั้งน้ำที่เก็บกักไว้ยังสามารถนำมาบริหารจัดการใช้เป็นน้ำต้นทุน ในการทำนาปรังและการอุปโภคบริโภค ทั้งในเขตโครงการและลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างในช่วงฤดูแล้งปี 2563/64 ได้อีกประมาณ 400 ล้าน ลบ.ม. เรียกว่าเป็นการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อบวก ลบ คูณ หาร การดำเนินโครงการบางระกำโมเดล ถือว่าคุ้มค่าทั้งต่อชาวนาในพื้นที่และสังคมโดยรวม.
สะ–เล–เต