รฟท.เร่งสอบสาเหตุรถไฟชนกันที่สถานีปากท่อ บาดเจ็บ 40 คน เบื้องต้นพบประแจสับรางขัดข้อง ยังไม่สรุปเป็นความผิดของพนักงาน ชี้ เป็นช่วงก่อสร้างรถไฟทางคู่ สั่งคนคุมเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 722 ชนกับขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ซึ่งจอดอยู่ในทางหลีกบริเวณสถานีปากท่อ จ.ราชบุรี ว่า ได้ทำการยกขบวนรถที่ตกรางได้แล้ว และสามารถเปิดทางเดินรถระหว่างสถานีปากท่อ-บ่อตะคร้อ และปากท่อ-บางเค็ม ได้เมื่อเวลา 01.45 น. เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

เบื้องต้น การรถไฟฯ จะรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยออกหนังสือรับรองให้กับโรงพยาบาลเพื่อเรียกเก็บเงินจาก รฟท. กรณีผู้บาดเจ็บต้องไปรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในพื้นที่ต่างๆ ส่วนผู้บาดเจ็บต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถเลือกเดินทางโดยรถไฟ หรือพาหนะอื่น รฟท.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

สำหรับผู้โดยสารกรณีทรัพย์สินเสียหาย จะมีคณะกรรมการพิจารณาเยียวยาค่าเสียหายตามสมควรต่อไป อย่างไรก็ตาม จากอุบัติเหตุดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นผู้โดยสาร 40 คน และเป็นพนักงานการรถไฟบาดเจ็บ 4 คน ซึ่งขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมีเพียง 1 ราย ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนที่เหลือได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้นและกลับบ้านแล้ว

...

ทั้งนี้เส้นทางดังกล่าวเป็นระบบทางเดี่ยว ซึ่งขบวนรถไฟไม่สามารถหลีกทางบริเวณกลางทางได้ ต้องให้รถคันหนึ่งจอดรอก่อนเพื่อเข้าทางหลีก โดยตามปกติระบบประแจจะเป็นระบบไฟฟ้า แต่ขณะนี้เป็นช่วงระหว่างก่อสร้างรถไฟทางคู่ ทำให้ประแจไฟฟ้างดใช้ชั่วคราว ซึ่งมีโอกาสเกิดเหตุได้ จึงสั่งการให้ใช้ความระมัดระวัง

ส่วนกรณีพนักงานสับประแจดังกล่าวจะเป็นความผิดของพนักงาน หรือเกิดจากระบบทางเทคนิค ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องรอคณะกรรมการเหตุอันตรายสรุปอีกครั้ง ขณะเดียวกันการประเมินความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้เช่นกัน

"การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ต้องใช้เวลาในการสอบส่วน การเกิดอุบัติเหตุต้องมีเหตุการณ์พยานหลักฐาน ไปทางเดียวกันทั้งหมด ถ้าด่วนสรุปหลักฐานขัดแย้งกันมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นการสอบปากคำเหมือนการสอบสวน เรื่องนี้ไม่ลึกลับหรอก เมื่อสอบสวนเสร็จแล้วในส่วนของคนผิด ทาง รฟท.มีมาตรการมีขั้นตอนอยู่แล้ว ส่วนโทษจะเป็นอย่างไร ต้องดูความหนักเบา" นายวรวุฒิ กล่าว

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสั่งการให้ดูแลการชดใช้การเยียวยาผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบกับกรณีอุบัติเหตุในครั้งนี้.