ศาลแขวงปทุมวันพิพากษาจำคุก 1 เดือนกับ “มิตร มิตรชัย” พระเอกลิเกน้องชาย “เอ-ไชยา มิตรชัย” ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กล่าวหานายตำรวจยศ พ.ต.อ. ข่มขู่บังคับเซ็นชื่อรับสภาพหนี้ 35 ล้านบาท ให้นับโทษต่อจากคดีเก่าฉ้อโกงเงินเพื่อนนักธุรกิจหญิง คุมตัวไปขังต่อที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ที่ศาลแขวงปทุมวัน เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ก.พ. ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีดำ อ.41/2563 ที่ พ.ต.อ. ปจภณ รอดโพธิ์ทอง ผกก.ฝ่ายสวัสดิการบ้านพัก สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายคีรีรัก สมณะบารมี หรือมิตร มิตรชัย อายุ 26 ปี อดีตพระเอกลิเก น้องชายของเอ-ไชยา มิตรชัย และแอน มิตรชัย พระเอก-นางเอกลิเกคนดัง เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีมิตร มิตรชัย กล่าวหา พ.ต.อ.ปจภณข่มขู่บังคับให้เซ็นรับสภาพหนี้ 35 ล้านบาท เนื่องจากไม่เป็นความจริง นัดนี้ศาลเบิกตัวมิตร มิตรชัย จำเลยมาจากเรือนจำอำเภอธัญบุรี จำเลยแถลงต่อศาลขอกลับคำให้ การเดิมจากปฏิเสธต่อสู้คดีเป็นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขอให้ศาลลงโทษสถานเบา

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต เนื่องจากจำเลยรับสารภาพไม่ต้องสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ ก่อนมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกมิตร มิตรชัย จำเลยเป็นเวลา 1 เดือนโดยไม่รอลงอาญาและให้นับโทษต่อจากคดีของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาเมื่อวันที่ 26 ก.ค.62 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 6 ปี พร้อมชดใช้เงิน 27 ล้านบาทแก่ น.ส.รัญชิตา สิทธาเตชานนท์ อายุ 43 ปี เจ้าของกิจการสารหล่อลื่นเครื่องจักรกล ที่ยืมมาให้มิตร มิตรชัย ไปใช้ทำโครงการลิเกออนไลน์และอื่นๆตามที่กล่าวอ้าง แต่เจ้าตัวกลับนำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นจนหมดและไม่สามารถนำเงินมาใช้คืนได้ กระทั่งถูกดำเนินคดีฐานฉ้อโกง

...

สำหรับคดีนี้เป็นคดีต่อเนื่องจากคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.รัญชิตา สิทธาเตชานนท์ โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ย.58 มิตร มิตรชัย พร้อมมารดาเดินทางไปที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อขอคำปรึกษาด้านกฎหมาย กรณีถูกนายตำรวจคนหนึ่งขู่กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่บังคับให้เซ็นยอมรับสภาพหนี้ 35 ล้านบาท แต่ต่อมาวันที่ 30 ก.ย.58 พ.ต.อ.ปจภณ รอดโพธิ์ทอง ผกก.ฝ่ายสวัสดิการบ้านพัก พร้อมภรรยา เดินมาที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีมิตร มิตรชัย ในข้อหาหมิ่นประมาท

พ.ต.อ.ปจภณ ชี้แจงว่าที่ต้องแจ้งความเอาผิด เพราะเรื่องที่มิตร มิตรชัย ยกมาอ้างว่าถูกบังคับให้เซ็นสัญญาเงินกู้นั้น ไม่เป็นความจริง แท้จริงเป็นเพียงการลงนามในสัญญายอมรับสภาพหนี้ที่ตนและภรรยาช่วยระดมเงินลงทุนให้กับ น.ส.รัญชิตา สิทธาเตชานนท์ เพื่อเอาไปให้มิตร มิตรชัย ทำธุรกิจยืนยันผู้กล่าวหาทำด้วยความเต็มใจและมีพยานลงลายมือชื่อไว้ กระทั่งมีการฟ้องร้องเป็นคดีความจนศาลสั่งจำคุกกับมิตร มิตรชัย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาดังกล่าว