งูเห่าด่างพ่นพิษใส่หน้าสาววัย 33 ปี โชคดีติดแว่นตาหวิดบอด ก่อนเลื้อยหนีซุกซ่อนอยู่ในพื้นปูนใต้บ้านนานหลายเดือน จนล่าสุดโผล่มาอีกครั้ง รีบแจ้ง จนท.อาสาสมัครพิทักษ์งู มาจับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 กรณีภาพวงจรปิดที่อยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้าน นางสาวจุฑามาศ แตงทองคำ หรือน้องปลา อายุ 33 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.มงคลธรรมนิมิตร อ.สามโก้ จ.อ่างทอง จับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม 2562 ขณะที่งูเห่าตัวใหญ่ยาวร่วม 2 เมตร เลื้อยผ่านมาบริเวณโต๊ะใต้ถุนบ้านเลื้อยไปมาอยู่ที่บริเวณร่องปูนที่แตกร้าวใต้ถุนบ้านก่อนเลื้อยไปอยู่ที่บริเวณเสาใต้ถุนบ้าน และมีเสียงสุนัขเห่ากระโชกเสียงดังอยู่ที่บริเวณเสาบ้าน
เมื่อน้องปลาได้เดินออกมาดู ได้เดินผ่านงูเห่าที่ชูคอแผ่แม่เบี้ยพร้อมจะทำร้าย แต่น้องปลามองไม่เห็นงูเห่าที่จ้องคอยจะทำร้าย และเมื่อน้องปลาได้พบเห็นงูเห่าตัวใหญ่อยู่ใกล้ จึงตกใจถอยหลังหนี ซึ่งงูเห่าก็ชูคอแผ่แม่เบี้ยพร้อมกับพ่นพิษใส่ไปบริเวณใบหน้าของน้องปลาทันทีแต่โชคยังดีที่น้องปลามีแว่นตาป้องกันดวงตาไว้ได้ ส่วนเจ้างูเห่าเลื้อยหนีไปอย่างไร้ร่องรอย เบื้องต้นมีรอยไหม้บริเวณหน้าผาก และปวดแสบที่บริเวณโดยรอบดวงตา จึงเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาล
...
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงสุนัขที่ผ่านเห่าดังผิดปกติอีกครั้ง ที่บริเวณจุดเดิม ก็ได้พบเจ้างูเห่าตัวเดิมโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง บริเวณที่บริเวณด้านข้างเสาบ้าน และได้เลื้อยหนีลงไปที่บริเวณรอยปูนที่แตกร้าวและเลื้อยลงไปแอบซุกซ่อน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครพิทักษ์งู จังหวัดอ่างทอง ได้เข้าตรวจสอบ ก็พบว่ามีงูเห่าตัวขนาดใหญ่ อยู่ที่บริเวณพื้นปูนที่แตกร้าวบริเวณใต้ถุนบ้าน ซึ่งด้านล่างนั้นเป็นโพรง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทุบพื้นปูน และจับเจ้างูเห่าขึ้นมาได้ พบว่าเป็นงูเห่าด่างพ่นพิษ ตัวขนาดใหญ่ ยาวกว่า 1 เมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เจ้างูเห่าด่าง สามารถพ่นพิษได้ไกล ถึง 5–8 เมตร หากถูกกัดก็มีพิษร้ายแรงทำให้เสียชีวิตได้ จึงได้นำปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป.