หนุ่มรับจ้าง น้อยใจแฟนสาว คว้าเชือกคิดสั้นคาบ้านพัก แฟนสาวเผยทั้งน้ำตา คบกันได้ 2 เดือน ผ่านทางเฟซบุ๊ก ยังไม่เคยเห็นหน้า หวัง เม.ย.จะพบ-อยู่ด้วยกัน จนท.คาดเหตุหึงแฟนออกไปกินเหล้า ตรวจสอบพบเคยขู่ลาโลกเรียกร้องความสนใจมาแล้วหลายครั้ง
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ม.ค.63 ร.ต.อ.เจริญฤทธิ์ โทรสิงห์ สภ.นางลือ ต.นางลือ อ.เมือง จ.ชัยนาท รับแจ้งเหตุคนผูกคอตาย ที่บ้านพักคนงาน ม.11 ต.นางลือ อ.เมือง จ.ชัยนาท จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญู จ.ชัยนาท และแพทย์เวรโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านมุงสังกะสี ภายในบ้านพบศพ นายปรัชญา จันทะปะขาว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.8 ต.ดงเมือง อ.ยางสีสุวาน จ.มหาสารคาม สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่ใส่เสื้อ ใช้เชือกปอมัดกองฟาง เอามาถักเป็นเส้นใหญ่มัดรวมกัน ผูกคอตัวเองกับคานไม้ใต้หลังคา สภาพศพลิ้นจุกปาก จากการชันสูตรคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุ เจ้าหน้าที่จึงมอบศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ด้าน นางจิตรดา รังไธสง อายุ 29 ปี ลูกพี่ลูกน้องผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายมาอยู่ที่นี่ 2 เดือน มารับจ้างเพาะกล้าต้นข้าว กำลังจะกลับบ้านในวันนี้ ช่วงค่ำที่ผ่านมาก็นั่งกินข้าวกันตามปกติ คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการน้อยใจแฟนสาว รู้ว่าคุยกับแฟนคนนี้อยู่น่าจะไม่เกิน 2 เดือน คุยกันใช้อารมณ์ พูดคำหยาบด่าทอกันอยู่บ่อยๆ ส่วนเรื่องอื่นไม่ทราบ เพราะน้องไม่ค่อยบอกอะไรมาก
ด้าน นายเชาว์ มีมาก อายุ 41 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 เปิดเผยว่า ตอนที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านก็รีบมาดูเหตุ พอมาถึงมีสายเข้าในโทรศัพท์ของผู้ตาย จึงกดรับพบว่าเป็นแฟนของผู้ตาย เลยบอกว่าแฟนเสียชีวิตแล้ว ทางแฟนผู้ตายบอกว่า เมื่อคืนมีปากเสียงกันตอนเที่ยงคืน จากนั้นก็ติดต่อมาตลอดแต่ไม่มีใครรับสาย จนมารู้เรื่องก็ตอนเกิดเหตุแล้ว จากการพูดคุยแฟนสาวผู้ตาย บอกว่า เจอกันในเฟซบุ๊กคุยกันมาเรื่อยๆ จนตกลงคบกันเมื่อกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่เคยเห็นหน้ากัน ตั้งความหวังกันไว้ว่า เดือน เม.ย.นี้ จะนัดเจอกัน และจะอยู่ด้วยกัน โดยทางแฟนผู้ตายร้องไห้ตลอดเวลา
...
จากการสอบสวนพบว่า ผู้ตายมีการโพสต์เฟซบุ๊กขู่ฆ่าตัวตาย จะบอกลาโลก เพื่อเรียกความสนใจจากแฟนสาวมาแล้ว และยังมีการบอกกับแฟนว่าจะฆ่าตัวตายหลายต่อครั้ง แต่ก็ไม่ทำ ครั้งนี้ที่บอกว่าน้อยใจ น่าจะมาจากสาเหตุที่ทางแฟนสาวผู้ตาย บอกว่า จะไปกินเหล้ากับเพื่อน แต่กลับหึงหวงเกินเหตุ จนหลายๆ คนก็ไม่คิดว่าครั้งนี้จะทำจริง