ผู้เลี้ยงปลากระชัง ดิ้นรนสู้ภัยแล้งที่คืบคลานมา ต้องถอยแพปลาออกไปไว้กลางแม่น้ำเจ้าพระยา หลังริมฝั่งน้ำตื้นเขิน เพื่อให้ปลาในกระชังได้ถ่ายเทระบายความร้อน ด้านผู้ว่าฯ เตรียมขุดบ่อบาดาล 130 บ่อ
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังภัยแล้งเริ่มลุกลามขยายวงกว้าง ส่งผลแม่น้ำเจ้าพระยาลดลง ทำให้ผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ต้องถอยร่นแพกระชังปลาทับทิมที่เลี้ยงอยู่ริมตลิ่ง ออกไปยังกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ปลาในกระชังได้มีน้ำไหลผ่านถ่ายเทระบายความร้อน จากแสงแดด เนื่องจากปริมาณน้ำที่ตื้นเขินและลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปลาทับทิมที่เลี้ยงอยู่ภายในกระชังได้รับผลกระทบ จากเชื้อโรคที่สะสมอยู่ภายในกระชังทำให้ปลาเริ่มเกิดโรคจากอากาศที่ร้อน จึงต้องถอยกระชังปลาไปยังกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้านนางสาวพะเยา ช้างทองคำ อายุ 64 ปี ผู้เลี้ยงปลากระชัง อำเภอไชโย กล่าวว่า ตนเองและญาติพี่น้องเลี้ยงปลากระชังจำนวน 30 กระชัง ต้องถอยแพปลาออกกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากบริเวณริมตลิ่งที่เลี้ยงปลากระชัง น้ำตื้นเขินและเวลาพระอาทิตย์ส่องแสงลงมาทำให้กระชังปลาที่อยู่ริมตลิ่งเกิดผลกระทบจากอากาศที่ร้อน
...
ผู้เลี้ยงปลากระชัง ที่อ่างทอง กล่าวอีกว่า ตนเองจึงได้ถอยแพเลี้ยงปลากระชัง ออกสู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ปลาในกระชัง ได้รับน้ำถ่ายเทเพื่อลดปริมาณการตายของปลาจากอากาศที่ร้อน และมีเพื่อนบ้านหลายรายต้องหยุดเลี้ยงปลากระชังชั่วคราวเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้งน้ำแห้งตื้นเขิน ส่วนตนเองต้องสู้ต่อไป เพราะการเลี้ยงปลากระชังเป็นอาชีพที่ต้องทำมาหากินเพียงอย่างเดียวที่สร้างรายได้ หากหยุดไปก็ต้องขาดรายได้
ด้าน นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าว่า เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ภัย ให้นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ สำรวจพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง และทำอย่างไรไม่ให้ พืช สวน ไร่ นา และการประมง เสียหายจากภัยแล้ง พร้อมเตรียมแจกจ่ายน้ำให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และเตรียมการขุดบ่อบาดาล 130 บ่อ เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือทางการเกษตร ชาวสวน และประมง ไม่ให้ได้รับความเสียหายต่อไป.